อายัดทรัพย์! เครือข่าย"ไทลี่"ร่วม 200 รายการ ตั้งข้อหา"ใช้เอกสารเท็จ-อั้งยี่"
ภูเก็ต- อายัดทรัพย์สิน"เครือข่ายไทลี่"กว่า 200 รายการ มีทั้งเรือ รถและบัญชีธนาคาร พร้อมแจ้งข้อหา 2 หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ตาม พ.ร.บ.คนต่างด้าวใช้เอกสารเท็จในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และข้อหาอั้งยี่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายบริษัท ทราน ลี่ ทราเวิล จำกัด หรือ ไทลี่ หลังจากมีการสนธิกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ทหารบก ทหารเรือ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ ปปง.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวนร่วม 100 นาย โดยแบ่งกำลังเข้าทำการตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 4 จุด ได้แก่ บริษัทราชา สปา จำกัด บริษัท อินทรีย์ มารีน จำกัด บริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด และ บริษัท ที.แอล.เบทเตอร์เวย์ จำกัด
พร้อมทั้งได้มีการตรวจยึดรถบัสโดยสาร เรือสปีดโบ๊ท และบัญชีธนาคารจำนวนมาก เพื่อตรวจสอบตามคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว ทั้งนี้สามารถอายัดทรัพย์สินไว้ จำนวนกว่า 200 รายการ ได้แก่ เรือสปีดโบ๊ท รถบัสรับส่งผู้โดยสาร และบัญชีธนาคาร
พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผกก.กก.8บก.รน. (ตำรวจน้ำ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.บก 8 รน.,พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม รอง ผกก.กก.5 บก.ทท.,เจ้าหน้าที่ ปปง. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายเรือสปีดโบ๊ท ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพย์สินในเครือข่ายบริษัท ทรานลี่ฯ ที่ถูกอายัดไว้ตามมูลฐานความผิดของ ปปง. หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาข้อหานายวีระชัยคำไผ่ ประพันธ์กุล และนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.คนต่างด้าวใช้เอกสารเท็จในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท รวมทั้งได้ตั้งข้อหาอั้งยี่เพิ่มเติมด้วย
สำหรับเรือสปีดโบ๊ทที่มีการอายัดไว้นั้นมีจำนวน 34 ลำ โดยแบ่งการจัดเก็บไว้ที่แพแสงอรุณนอก และท่าเทียบเรือ ปภ. จำนวนประมาณ 30 ลำ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วันจึงจะนำขึ้นฝั่งได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดเก็บไว้ที่ แพ ป.พิชัย 1ลำ และมี 3 ลำที่ขึ้นคานเรือ เพื่อซ่อมแซมอยู่ก่อนแล้ว
ในส่วนของรถบัสโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยวนั้น อายัดแล้ว 92 คัน จาก 117 คัน เบื้องต้นได้มีการจัดเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากนี้ในส่วนของ ปปง.ก็จะได้ตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าว โดยจะให้สิทธิ์เจ้าของทรัพย์ได้ชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์สินต่างๆ ดังกล่าว ว่า เป็นไปตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาหรือไม่ หากชี้แจงได้ก็จะทำเพิกถอนและคืนทรัพย์ให้กับผู้ถูกกล่าว แต่หากไม่สามารถชี้แจงได้ก็จะถูกยึดตกเป็นของแผ่นดิน โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการตามอำนาจของ เลขา ปปง.90 วัน ส่วนของคดีอาญานั้นก็จะเป็นการดำเนินการในส่วนของทางพนักงานสอบสวนต่อไป
