โดยระหว่างที่ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุมี นายสมหมาย สายดำ อายุ 38 ปี พยานที่เห็นเหตุกาณ์ เล่าว่า ตนเห็นเจ้าของบ้านต้นเพลิง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานด้วยกัน มีพฤติกรรมชื่นชอบดื่มสุรา และทะเลาะกับภรรยาภายในบ้านหลังนั้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านตน จากนั้นไม่นานก็มีแสงเพลิงออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ตนจึงรีบเข้าไปพยายามดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถดับได้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเจ้าของบ้านหลังนั้นได้หลบหนีไปแล้ว หลังจากนั้นทางตำรวจนำตัวพยาน มาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สน.ดอนเมือง
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสืบสวนสอบสวนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ แนวโน้มมาจากมีผู้กระทำความผิด เนื่องจากมีพยานในที่เกิดเหตุระบุว่า มีบุคคลเจตนาทำให้เกิดขึ้น ส่วนในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องทำการสอบปากคำพยานรายนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งรัดติดตามตัวมาให้เร็วที่สุด จากนั้นทำการพิสูจน์ทราบ หากผลออกมาเป็นการกระทำความผิดจริง ต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้จะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับ
"โดยคดีนี้มีผู้ที่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ต้องได้รับการดูแล อีกทั้งมีผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย 1 ราย อย่างไรก็ดี หลังจากนี้จะให้ทาง บก.น.2 จะตั้งคณะชุดทำงานขึ้นมาเพื่อสอบสวน และทำการสอบปากคำผู้เสียหายกว่า 900 ราย" รรท.ผบช.น. กล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางชุดสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อ นายสุเทพ ปิ่นทอง คาดว่าเป็นผู้วางเพลิงดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้ไปทำงานที่ไซด์งานก่อสร้าง ย่านวัดโบสก์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ หน่วยงานราชการนำอาหาร น้ำดื่ม และของใช้ที่จำเป็นมาให้ความช่วยเหลือแรงงาน ต่างพากันต่อแถวเข้าคิวรับของบริจาคเป็นจำนวนมาก บางรายพากันเข้าไปดูจุดห้องที่พักที่ถูกไฟไหม้จนเหลือเพียงซากประหลักหักพัง ต่างพากันกอดแล้วร้องไห้ด้วยความสูญเสีย