เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 กรกฏาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ อายุ 56 ปี ผู้ที่เป็นข่าวใหญ่กรณีแจ้งความคนรับใช้ในบ้านขโมยทรัพย์สินภายในบ้านพัก และกำลังเป็นประเด็นที่สนใจของสังคมถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ได้เดินทางมาที่วัดใหญ่ หรือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อกราบไหว้พระพุทธชินราช จากนั้น ได้เดินทางมารับประทานอาหารกลางวันที่ชั้น 2 โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า อ.เมืองพิษณุโลก โดยมีสื่อมวลชนในพิษณุโลกที่ทราบข่าวได้มาดักรอสัมภาษณ์ที่โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า
หญิงไก่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากบ้านพักมาที่ จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีความตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช ที่เราได้กราบไหว้มาตลอดชีวิต มากราบว่า ถ้าเกิดผู้ต้องหานำเงินหรือทรัพย์สินของดิฉันไป ก็ขอให้เขามีอันเป็นไป แต่ถ้าเขาไม่ได้ลักขโมยของดิฉันไป ก็ขอให้ดิฉันมีอันเป็นไป ถ้าเราใส่ความเขา ก็ขอให้เรามีแต่ภัยพิบัติเกิดขึ้นในชีวิต แต่ถ้าเขาเอาของเราไปจริงก็ขอให้เรามีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิต ได้บอกหลวงพ่ออย่างนี้ ส่วนหลังจากนี้ การดำเนินชีวิตก็ปกติ ไม่หนีไปไหน ตอนนี้กระแสสังคมตัดสินไปแล้ว สื่อบางสื่อ ตัดสินไปแล้ว ตอนนี้ตนจึงเหลือที่พึ่งสุดท้ายคือศาล เป็นที่พึ่งของประเทศไทยคือศาล
"เดิมมีโปรแกรมจะไปเชียงราย แต่ใจร้อน หลังจากให้สัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ ก็รอ หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จก็รีบมา แล้วก็จะกลับ เพราะเขาบอกว่าให้มอบตัวให้การในวันที่ 11 กรกฏาคม เราก็ใจร้อนอยากจะไปทันที ไม่อยากให้มีการชี้นำ ฝั่ง(สงกรานต์) ชี้นำมาตลอด ชี้นำว่าค้ามนุษย์ ค้ามนุษย์บ้าง เป็นคุณหญิงปลอมบ้าง ไม่ต้องห่วงว่า จะเป็นของปลอม คดีแค่ลักทรัพย์ ตัวเองไม่ได้ลักทรัพย์ก็มาคุยกัน มาสู่ศาลก็มีการประนีประนอม ไม่ใช่คดีใหญ่โตเลย เกิดมาไม่เคยเอาใครติดคุกเลย ตอนนี้เรากำลังดำเนินการเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกที่คนมาว่าว่าเราเป็นจริงตามผู้ที่ชี้นำ ซึ่งผู้ที่ชี้นำเราดำเนินคดีอยู่แล้ว"นางมณตา กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามที่มาที่ไปของหญิงไก่เป็นมาอย่างไร หญิงไก่ตอบว่า ที่พิษณุโลกนั่นแหละ ผู้สื่อข่าวนี่แหละ คุณมนตรี มณีรุ่ง สื่อมวลชนอาวุโสของพิษณุโลก หญิงไก่โชว์เครื่องเพชร หญิงไก่แจกทุนการศึกษา สร้างวัด เงินตัวเองทั้งนั้น ทุกคนก็เรียกว่าหญิงไก่ บางคนอื่นก็เติมว่า คุณหญิงไก่ ตนก็ไม่ได้สนับสนุน แต่คนเรียกเองว่าคุณหญิงไก่ เราก็ห้ามไม่ได้ แล้วแต่คนที่ศรัทธาเรา แต่สำหรับเด็กที่ออกข่าวน่ะ เรียกตนว่าคุณนาย ไม่ได้เรียกว่าหญิงไก่
สำหรับกรณีไป จ.แม่ฮ่องสอนไปจริง ไม่ได้เอาเด็กมาเป็นคนรับใช้ นำไปส่งเรียน ที่ออกมาอย่างนี้ ก็เพราะมีคนส่งเรียน ในทางคดีข้อกล่าวหาต่าง ๆ ตนปฏิเสธตลอด ที่พึ่งต่าง ๆ จึงอยู่ที่ศาลเท่านั้น ที่ผ่านมาเราผิดตามกระแสสังคมตามที่ฝ่ายตรงข้ามชี้นำ ทำไมประเทศไทยกระแสสังคมแรงจริง ๆ ยอมรับเลย ตอนนี้กำลังเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย ประชาชนจะได้อยู่เป็นสุข อย่างเรื่องใส่ความตนต่าง ๆ ก็ต้องพึ่งศาล
สำหรับหมายเรียกจากกองปราบนั้น หญิงไก่ กับทนายความ ระบุว่า ยังไม่ได้รับอย่างเป็นทางการ แต่ก็ทราบข่าวแล้วจากสื่อ และพร้อมที่จะไปพบทั้งนี้ เวลาประมาณ 14.00 น. หญิงไก่ พร้อมทนายความ ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวออกจากโรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า และมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่กทม.