แฉพฤติการณ์ หญิงไก่ มักอ้างตัวใจบุญรับดูแลเด็กชาวเขา

กองปราบปราม-เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 1 ก.ค. 59 นายศรีสุวรรณ สรศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาบดีและหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวแม่ฮ่องสอน เดินทางเข้าให้ข้อมูลตำรวจกองปราบปราม กรณีหญิงไก่ซึ่งในอดีตเคยรับอุปการะเด็กหญิงในหมู่บ้านชาวเขาเผ่าปกากะญอ พื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมเปิดเผยข้อเท็จจริงว่า เคยพบเจอกับหญิงไก่ 2 ครั้งซึ่งมักอ้างตัวเองว่า เป็นคุณหญิง และมีหลายชื่อ คือ คุณหญิงมณตา และคุณหญิงสุชาดา โดยให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิงไก่

"ตอนนั้นเจอกันครั้งแรกที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งครั้งนั้นคุณหญิงไก่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน้องหนูนาและแฟนหนุ่ม และครั้งที่ 2 เจอที่ศูนย์ประชาบดี จ.แม่ฮ่องสอน ที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลของคุณหญิงไก่จากชาวบ้านพื้นที่แม่ฮ่องสอนว่า นางไก่หรือคุณหญิงไก่ อ้างตัวว่าเป็นใจบุญรับเลี้ยงเด็กหญิงในหมู่บ้านชาวเขาเผ่าปกากะญอ บอกกับพ่อแม่เด็กว่า จะเลี้ยงดู ส่งเรียนหนังสือ ซึ่งทุกครั้งจะให้เงินกับพ่อแม่เด็กเสมอ เช่นเดียวกับกรณีของหนูนามีการนำเงิน 1 หมื่นบาทไปให้กับครอบครัวหนูนา แต่แม่เขาไม่รับ แุต่คุณหญิงก็เอาเงินยัดใส่มือ บอกเอาไว้ซ่อมบ้าน เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมามีเด็กหญิงและผู้หญิงในหมู่บ้านไปทำงานกับหญิงไก่ จำนวน 6 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี 5 คน และอายุ 21 ปี 1 คน ต่อมาเกิดเรื่องแจ้งความฟ้องร้องกับหนูนา เด็กๆเลยพากันหนีกลับบ้าน ยกเว้นหนูนา ที่ถูกหญิงไก่ แจ้งความ ลักทรัพย์จากการสอบถามเด็กทราบว่า หญิงไก่ มีพฤติกรรมข่มขู่ ยัดข้อหา และพยายามพาออกนอกประเทศ จึงเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ประชาบดี แต่เด็กไม่กล้าแจ้งความ เพราะกลัวอิทธิพลหญิงไก่ " นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม พบ ข้อมูลพฤติกรรมหญิงไก่ที่มักจะดำเนินคดีกับลูกจ้าง ที่ไม่ยอมทำตามที่สั่ง รวมทั้งกรณีของ น.ส.จันทนา หรือ หนูนา คชคงไทย ที่แอบไปคบแฟนหนุ่มและหนีมาแต่งงาน ซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่า เหตุที่หญิงไก่แจ้งความ เพราะโกรธ ไม่ต้องการให้เด็กที่ดูแลไปแต่งงาน เหมือนเป็นการไม่เชื่อฟัง หยามศักดิ์ศรี โดยหญิงไก่เคยพูดต่อว่า ชายหนุ่มว่า ว่า จะขอหนูนาแต่งงานทำไมไม่ยอมบอก เพราะได้ซื้อหนูนามากับแม่ของเขามาแล้วในราคา 1 หมื่นบาท

ด้านนางสุภัชชา สุทธิพล รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ น.ส.จันทนา (หนูนา)ยังอยู่ในอาการหวาดกลัวอยู่ เกรงว่า ตัวเองจะไม่ปลอดภัย ทางกระทรวงฯได้ให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกตามที่ร้องขอ ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก โดยจัดที่พักให้รวมถึงกรณีของ น.ส.ประพาวรรณ หรือก้อย ใจกล้า ที่ถูกนางไก่ แจ้งความลักทรัพย์กว่า 10 ล้านบาทด้วย
ส่วนกรณีหนูนา ที่อ้างว่าถูกกักขัง ไม่ให้ติดต่อกับครอบครัว ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เข้าข่ายความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวจึงยังไม่สามารถเอาผิดผู้ถูกกล่าวหาได้ เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าตัวยังสามารถออกไปข้างนอกและกลับบ้านได้ ส่วนนางไก่ จะมีความผิดเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ กรณีนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาทำงานและพยายามนำเด็กเดินทางออกต่างประเทศ อยู่ระหว่างการตรวจสอบก่อน