ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 10 ชั้น บริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคารของแมนชั่นดังกล่าว พบหลังคากันสาดแบบปูนซีเมนต์ความยาวประมาณ 20 เมตร หลุดลงมาทั้งแผงจนส่งผลให้มีรถยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายทั้งหมดจำนวน 8 คัน แบ่งเป็นรถยนต์เก๋ง จำนวน 6 คัน และรถยนต์กระบะ 2 คัน
ทั้งนี้มีรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จำนวน 3 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆม 9249 กรุงเทพมหานคร พังยับเยินทั้งคัน รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กท 8308 กาญจนบุรี เสียหายพังยับเยินตั้งแต่ช่วงกลางถึงด้านท้าย จนด้านหน้ายก ยางล้อหลังด้านขวาแตก และรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นออลนิว ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค 1832 กรุงเทพมหานคร สูญเสียมากกว่าครึ่งคัน จนยางล้อหลังด้านขวาแตกละเอียด ส่วนที่เหลือถูกหลังคากันสาดทับอยู่ช่วงบริเวณด้านท้าย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำเทปกั้นเขตอันตรายมาปิดกั้นไว้เพื่อไม่ให้บุคคลใดเข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุเกรงว่าจะเกิดอันตราย
สอบสวนน.ส.กชพร พงษ์วิทยาภานุ อายุ 27 ปี ประกอบอาชีพพนักงานต้อนรับของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านราชดำริ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ตามปกติภายในแมนชั่นดังกล่าว ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายฟ้าผ่าลงดังอย่างดังพร้อมทั้งมีเสียงสัญญาณกันขโมยของรถดังสนั่นหวั่นไหว แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าฝนกำลังจะตก หลังจากนั้นตนตื่นขึ้นมาเวลาประมาณ 22.30 น. เพื่อจะออกไปรับประทานอาหารด้านนอก ก็ต้องถึงกับผงะเมื่อเห็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กท 8308 กาญจนบุรี ของตนเสียหายพังยับเยินตั้งแต่ช่วงกลางถึงด้านท้าย โชคดีที่วันนี้(30 มิ.ย.)ตนไม่ได้ออกไปทำงาน รวมทั้งไม่ได้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มิเช่นนั้นอาจเป็นโศกนาฏกรรมอย่างแน่นนอน
ขณะที่ นายคณิต บอกว่า หลังได้รับแจ้งตนจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งเจรจากับฝ่ายนิติบุคคลของแมนชั่นดังกล่าว ก่อนได้รับข้อมูลว่า สาเหตุที่กันสาดถล่มลงมาอาจเป็นเพราะเรื่องของอายุการใช้งานนานแล้ว เพราะตึกดังกล่าวสร้างมานานกว่า 20 ปี ทั้งนี้เจ้าของตึกดังกล่าวพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดแต่ให้เจ้าของรถผู้เสียหายทไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.บางซื่อ ซึ่งภายในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ จะประสานให้เจ้าหน้าที่กรมโยธาเข้ามาตรวจสอบและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป