พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2558 น.ส.ลิน ลู (Miss Lin Lu) สัญชาติจีน พร้อมเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้เรียกใช้บริการรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลล่า อัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทส 7735 จากบริเวณปากซอยสุขุมวิท 93 ให้ไปส่งที่บ้านพักภายในหมู่บ้านปรีชา-ร่มเกล้า ถ.ร่มเกล้า แขวงและเขตมีนบุรี กทม. ซึ่งนางสาวลิน ลู และเพื่อน ได้เก็บกระเป๋าเดินทาง จำนวน 2 ใบ ไว้ในกระโปรงหลังของรถแท็กซี่คันดังกล่าว และวางกระเป๋าเป้ซึ่งภายในมีทรัพย์สินของมีค่า มูลค่ารวมประมาณ 5 แสนบาท เอาไว้ที่เบาะนั่งด้านหน้าข้างคนขับ โดยผู้เสียหายและเพื่อน นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง เมื่อแท็กซี่ขับขี่มาถึงจุดหมายปลายทาง น.ส.ลิน ลู และเพื่อนได้ช่วยกันยกกระเป๋าเดินทางลงจากท้ายกระโปรงรถ จากนั้นคนขับรถแท็กซี่ ได้เร่งรัดให้ชำระค่าโดยสาร เมื่อน.ส.ลิน ลู ชำระค่าโดยสารเสร็จสิ้น คนขับรถแท็กซี่ ได้รีบเดินไปขึ้นรถและขับขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ยอมยกกระเป๋าเป้ที่อยู่บริเวณด้านหน้าข้างคนขับลงจากรถเสียก่อน
"หลังรับเรื่องร้องทุกข์ตำรวจท่องเที่ยวก็สืบสวนเรื่อยมา กระทั่งทราบว่าคนขับรถแท็กซี่คันนั้น คือ นายดม จึงประสานตำรวจ สน.มีนบุรี ให้ขอศาลออกหมายจับและตามจับกุมตัวนายดม ไว้ได้ โดยหลังจากนี้จะดำเนินคดีทางอาญากับนายดม และขณะเดียวกันกรมการขนส่งจะพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดใด และต้องเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะควบคู่กันด้วยหรือไม่" ผบก.ทท. กล่าว
สอบสวน นายดม ให้การอ้างว่า เป็นคนขับแท็กซี่ไปส่งผู้โดยสารคนดังกล่าวจริง และเมื่อถึงที่หมายก็คิดค่าโดยสารตามปรกติ โดยไม่ทราบว่ามีกระเป๋าผู้โดยสารอีกหนึ่งใบวางอยู่ที่เบาะข้างคนขับ เมื่อจ่ายค่าโดยสารเสร็จ ตนก็เลยขับรถไปเพื่อรับผู้โดยสารใหม่อีก 2 คน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า ผู้เสียหายลืมกระเป๋าทิ้งไว้ โดยขณะนั้นตนตั้งใจจะนำกระเป๋ากลับไปคืน แต่ก็มีผู้โดยสารใหม่ขึ้นรถ ซึ่งให้ไปส่งฝั่งธนบุรี ตนจึงยังไม่ได้นำกระเป๋าไปคืนตามที่ตั้งใจไว้ จนกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนได้พยายามติดต่อไปยังสถานีวิทยุ สวพ.91 เพื่อที่จะสอบถามว่ามีใครมาแจ้งว่าลืมกระเป๋าทิ้งไว้ในนถแท็กซี่บ้างหรือไม่ แต่ตนยังไม่ทันได้สอบถามรายละเอียด สายโทรศัพท์ก็ถูกตัด ตนจึงไม่ได้ติดต่อไปอีกเลย
ด้าน น.ส.ลิน ลู ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยในวันเกิดเหตุนั้นตนได้เรียกรถคันดังกล่าวไปส่งที่บ้านพัก ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณตำรวจทุกหน่วยที่ช่วยนำทรัพย์สินกลับมาคืนให้ แม้ว่าเรื่องจะผ่านไปกว่า 6 เดือนแล้ว ทั้งนี้ตนไม่ได้โกรธ นายดม แต่ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายดมส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรีเพื่อดำเนินคดีต่อไป