กระทั่งทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ซึ่งมี พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. ตอบสนองนโยบาย ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปอศ. สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว และพบว่ามีข้าราชการใน จ.ปทุมธานี เป็นนายทุนปล่อยกู้นอกระบบ กระทำผิดกฎหมายเสียเอง
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ชุดสืบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการจับกุม นายบัญญัติ คมคาย อายุ 51 ปี ปลัดเทศบาล (นักบริหารงานเทศบาล 8) ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็ม และรหัสกดเงิน 4 หลัก ของผู้กู้ จำนวน 32 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากของผู้กู้ จำนวน 12 เล่ม สัญญากู้ยืมเงินที่ผู้กู้ลงลายมือชื่อ จำนวน 280 ชุด และอาวุธปืน ยี่ห้อกล๊อก ขนาด 9 มม. พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 กระบอก ซึ่งเป็นของผู้อื่นมาจำนำไว้
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้รับการแจ้งเบาะแสว่า มีบุคคลปล่อยเงินกู้นอกระบบ และคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยใช้วิธียึดบัตรเอทีเอ็มเงินเดือนของผู้กู้เอาไว้ และให้ผู้กู้จดรายละเอียดรัหัสเอทีเอ็ม 4 หลักเอาไว้ หลังจากที่เงินเดือนออก ผู้ให้กู้จะไปกดเงินตามที่ผู้กู้ทำสัญญากู้กันไว้ แล้วจะนำสลิปมาเป็นหลักฐานให้ผู้กู้ดูและรับเงินเดือนส่วนที่เหลือจากหักหนี้ไป
ซึ่งถ้าใครต้องการกู้ยืมเงิน ให้เตรียมสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน มีการทำสัญญาตามแบบฟอร์มสัญญากู้ยืมเงินเพียงลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้และผู้ค้ำประกันไว้ โดยไม่กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มสัญญาเงินกู้ คิดดอกเบี้ยร้อย 5 ต่อเดือน กระทั่งเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 มิถุนายน เจ้าพนักงาน กก.5บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าค้นบ้านเลขที่ 18/1042 หมู่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เข้าแสดงต่อ นายบัญญัติ ซึ่งทราบชื่อและตำแหน่งทางราชการในภายหลัง โดยนายบัญญัติได้แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ตามหมายค้น ก่อนจะมีการตรวจค้นพบของกลางและทำการจับกุมตัวมาสอบสวน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา "ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ,เรียกรับดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ,มีไว้เพื่อออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแลนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด และ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี จากนั้นจะทำการสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในวันนี้(30 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ บก.ปอศ.