พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวว่า หลังจากมีคลิปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทางเจ้าหน้าที่ได้รีบไปดำเนินการตรวจสอบ กระทั่งทราบตัวบุคคลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเป็นพ่อลูกกัน โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหลังรพ.รามาธิบดี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พญาไท ซึ่งต้องขอชี้แจงว่า ถนนหลวงนั้นไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนต้องจ่ายค่าที่จอดรถ หากมีการขู่เอาเงินให้มาแจ้งความที่ สน.พญาไท ในข้อหาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ได้
ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่จับกุมในครั้งนี้มีพฤติการณ์คือ มสักจะอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาจอดรถ จากนั้นจะขอเงินเป็นประจำ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสายตรวจและสายสืบ ให้ออกตรวจในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนว่า มีการเรียกเอาเงินจากการจอดรถในท้องที่บก.น.1แล้ว ทั้งถนนพระสุเมรุ ลานพระบรมรูปทรงม้า รวมถึงพื้นที่อื่นๆ หากทางเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบพบการกระทำดังกล่าวและจับกุมมาดำเนินคดีทันที
ด้านพ.ต.อ.นิติวัฒน์ กล่าวว่า ทางผู้ต้องหาเคยถูกนำตัวมาเปรียบเทียบปรับที่สน.พญาไท ก่อนหน้านี้แล้ว 15 ครั้ง ในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งก่อนหน้านี้โทษปรับไม่สูง แต่ปัจจุบันมีการเพิ่มโทษปรับในอัตราที่สูงขึ้น วันนี้(27 มิ.ย.)เจ้าหน้าที่จะปรับ 2,000 บาท หากครั้งหน้ายังพบว่าก่อเหตุอีกจะปรับในอัตราสูงสุดคือ 5,000 บาท และขอฝากถึงประชาชนว่า หากพบเห็นลักษณะการขอเงินในการจอดรถให้แจ้งตำรวจทันที ตนยอมไม่ได้ที่จะมีมิจฉาชีพมาก่อเหตุลักษณะนี้ในท้องที่ สน.พญาไท
จากการสอบสวน นายสมนึก อ้างว่า ก่อเหตุดังกล่าวมาได้ 2 ปี โดยตนไม่ได้มีการเรียกรับเงิน แต่คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาจอดรถ ส่วนเงินนั้นก็แล้วแต่ประชาชนจะให้ ได้เฉลี่ยวันละ 200-300 บาท ปกติก็ขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างตามปกติ โดยถือเป็นการทำหน้าที่จิตอาสา เริ่มทำตั้งแต่เวลา 06.00 น.-14.00 น. โดยบางครั้งตนก็จะขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของให้แม่ค้า ทั้งนี้เมื่อถูกดำเนินคดีแล้วตนก็คงไม่ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญควบคุมตัวเปรียบเทียบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป