"PRIMETIME กับ เทพชัย" : เบื้องลึก! บุกจับ อาบ อบ นวด "นาตารี"

ปฏิบัติการสังขร บุกตรวจค้นอาบอบนวดนาตารี ของเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง นำมาสู่การออกหมายจับ นายประเสริฐ หรือกุลประเสริฐ สุขขี หรือโกลัก พร้อมผู้จัดการอาบอบนวด ในความผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณีรวม 14 ข้อหา ถูกตั้งคำถามทำไมเพิ่งถูกดำเนินการทั้งที่เปิดให้บริการมานาน
เจ้าหน้าที่ส่งสายลับเข้าแฝงตัวนานกว่า 3 เดือนก่อนเข้าตรวจค้นพบหญิงสาวให้บริการกว่า 100 คนซึ่งกว่าร้อยละ 90 เป็นชาวต่างชาติ และยังพบบัญชีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจกว่า 10 หน่วยงาน นำมาสู่การโยกย้ายตำรวจห้วยขวางออกนอกพื้นที่ทันที 4 ราย
บัญชีส่วยที่พบถูกนำมาหยิบโยงว่าการเข้าจับกุมอาบอบนวดครั้งนี้มีเบื้องลึกที่มากกว่าการร้องเรียนของเอ็นจีโอต่างประเทศหรือไม่ เพราะเป็นที่รู้กันดีในแวดวงนักธุรกิจสถานบันเทิงว่าโกลัก เจ้าของอาบอบนวดแห่งนี้รู้จักมักคุ้นตำรวจระดับสูงหลายราย

โกลัก ไม่ใช่นักธุรกิจอาบอบนวดมือใหม่ เริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคโรงน้ำชา เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อราว 5 ปีก่อน โดยชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักธุรกิจอาบอบนวด ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่กรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการ เปิดให้บริการของเอไลน่าอาบอบนวด ซึ่งเป็นของโกลัก โดยอ้างว่าตั้งอยู่เยื้องกับสถานการศึกษา แต่กลับได้ไฟเขียวจากบิ๊กตำรวจยศพล.ต.ท.ชื่อย่อ จ.จาน คุมพื้นที่นครบาล
ห้วงเวลานั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาลมี พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการ อยู่ระหว่างโยกย้ายไปรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จึงถูกนำไปผูกโยงถึงความสัมพันธ์ในครั้งนั้นต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้เมื่อมีการบุกอาบอบนวดนาตารีท่ามกลางกระแสข่าวความไม่ลงรอยของตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลานี้ นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปว่าเป็นการเขย่าเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ นั่งอยู่หรือไม่

แต่หน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยกับพรามทามว่า ปมการตรวจสอบอาบอบนวดนาตารี อาจไม่เกี่ยวเนื่องกับความไม่ลงรอยของบิ๊กตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากนัก เพราะก่อนหน้านี้มีการประสานจากหน่วยงานเอฟบีไอของสหรัฐ ที่พบความเคลื่อนไหวการฟอกเงินที่เกี่ยวเนื่องการค้ามนุษย์ของมาเฟียชาวจีน นำมาสู่การใช้กำลังของกระทรวงมหาดไทย เพราะมีความกังวลว่าหากใช้ตำรวจในพื้นที่เข้าปฏิบัติการอาจไม่สามารถดำเนินคดีใครได้