พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมยักยอกทรัพย์ โดยการหลอกแต่งงาน และเชิดรถของผู้หญิงที่แต่งงานด้วยไปขาย และขาดการติดต่อ ซึ่งก่อเหตุมาหลายครั้งและเมื่อเดือนตุลาคม 2558 น.ส.ธันยารัตน์ ดวนใหญ่ อายุ 29 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ว่าถูกนายกฤษฎา ยักยอกรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 8449 อุบลราชธานี ซึ่งตนเป็นผู้ซื้อรถคันดังกล่าวก่อนที่นายกฤษฎาจะนำไปขายต่อและไม่ได้เอาเงินมาให้ตนแต่อย่างใด
ต่อมาตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ ต.วัดตูม อ.เมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้ต้องหาจะต้องเดินทางมาส่งภรรยาที่บริเวณหน้าห้างเทสโก้โลตัสดังกล่าวทุกวัน จึงได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จนพบว่าผู้ต้องหาขับรถยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กง 6881 นครสวรรค์ มาจอดอยู่หน้าห้างดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนหน้านี่เคยประกอบอาชีพเป็นเจ้าของเต็นท์รถและผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาว พูดจาหว่านล้อมทำทีว่ารัก จากนั้นก็จะแต่งงานด้วย ก่อนที่จะเชิดรถยนต์ หรือรถกระบะ รวมทั้งทรัพย์สินมีค่าอื่นๆไป โดยจะนำไปขายแล้วนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว และเป็นทุนในการก่อเหตุลักษณะเดิมอีก สำหรับตนกับน.ส.ธันยารัตน์ นั้น ได้คบหากันเป็นแฟนมาประมาณ 6 เดือน ก่อนที่จะตกลงซื้อรถยนต์คันดังกล่าวร่วมกัน แต่ว่าเป็นชื่อของ น.ส.ธันยารัตน์ โดยใช้เงินดาวน์จำนวน 3 หมื่นบาท ก่อนที่ตนจะมีปัญหาจนเลิกรากันไปแต่ทาง น.ส.ธันยารัตน์ ไม่ได้เอารถไปด้วย
โดยอ้างว่าไม่มีเงินพอที่จะสามารถผ่อนรถคันดังกล่าวได้ จึงทิ้งรถไว้ที่ตน แต่ตนก็ไม่มีเงินพอที่จะสามารถผ่อนต่อได้เพราะราคาค่างวดรถต่อ 1 เดือน จำนวน 12,000 บาท ตนจึงตัดสินใจขายต่อให้กับเพื่อนในราคา 3 หมื่นบาท จนมาทราบว่าน.ส.ธันยารัตน์ไปแจ้งความว่าตนยักยอกทรัพย์และมาถูกตำรวจจับกุม ทั้งนี้ที่ผ่านมาก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ของสภ.เมืองอุบลราชธานี
เบื้องต้นชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป