นาย กอบเกียรติ กลิวิวัฒร์ รองปลัดยุตุธรรม รักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่าตอนแรกเข้ามาหลายทาง โดยมีการโยนเข้ามา ฝากเข้ามาเรื่องการฝึกอาชีพ แต่เราก็พยายามทำหลายมาตรการ โดยมาตรการเกี่ยวกับเรือนจำ เราได้ตัดการโยนเข้ามาด้วยการทำบัฟเฟอร์แอเรียกว้างๆ ไม่ให้ติดกำแพง หรือทำตะข่ายสูงๆ หรือการฝากเข้ามากับสิ่งของ ก็พยายามที่จะตัดสิ่งของที่ยุ่งยากกับการฝึกวิชาชีพในเรื่องการใช้อุปกรณ์ที่ซ่อนมาเยอะมาก
เจ้าหน้าที่เรือนจำเปิดเผยกับ Prime Time ว่า ในอดีตมีทั้งการขว้างมือถือที่ห่อที่หุ้มห่อเป็นอย่างดีข้ามกำแพง ไปถึงการยิงด้วยธนู หรือถึงขั้นใช้ยานบินขนาดเล็กลำเลียง
แต่การที่นักโทษมีโทรศัพท์มือถือในครอบครองก็ไม่ได้หมายความว่านึกอยากจะโทรหาใครก็ทำได้ทุกเวลาหรือทุกที่ในคุก เพราะหลังจากค้นพบการใช้โทรศัพท์มือถือของนักโทษเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ได้ติดเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์แต่วิธีการนี้ได้ผลแค่ไหน
...จุดที่เรียกว่า เป็นจุดหัวที ซึ่งอยู่ตรงบริเวณเรือนนอนของแดนห้า ของเรือนจำกลางคลองเปรมนะครับ ที่ทุกคนก็รู้ดีว่า เป็นจุดที่อับสัญญาณ เพราะว่าเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพทนี้มาไม่ถึง ก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดใจนะครับที่ทำไมนักโทษที่เกี่ยวกับพันกับเรื่องยาเสพติดจึงพยายามอยากมากนะครับที่จะขอย้ายมาอยู่ที่เรือนนอนแห่งนี้....
เพราะฉะนั้น ถ้านักโทษคนไหนแสดงความพยายามอย่างมากที่จะขอย้ายมาอยู่เรือนนอน ที่ใช้เป็นที่คุมขังนักโทษเด็ดขาดในแดน 5 แห่งนี้ ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่ากำลังมีแผนจะทำอะไร
แต่คำถามใหญ่ที่สุดคือ ในคุกความมั่นคงสูงอย่างเรือนจำคลองเปรม ที่นักโทษถูกตรวจตราและถูกเฝ้าระวังตลอดเวลา ทำไมการลักลอบเอาโทรศัพท์มือถือเข้ามาจึงเกิดขึ้นได้
อดีตนักโทษรายนี้ ยืนยันกับ Prime Time การลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในคุกเป็นไปไม่ได้เลยถ้าผู้คุมไม่ร่วมมือด้วย
แหล่งเก็บซ่อนโทรศัพท์มือถือในเรือนนอนของนักโทษเด็ดขาด เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เองหากไม่มีประสบการณ์ไร้สายข่าวคอยชี้เป้าก็ยากจะเข้าถึงแหล่งซุกซ่อน วิธีการตรวจของเจ้าหน้าที่จึงต้องอาศัยไหวพริบ ประสบการณ์ การสังเกตความผิดปกติต่างๆ ภายในเรือนนอน ซึ่งจุดซุกซ้อนโทรฯ ที่พบมีอย่างน้อย 3 รูปแบบ
ท่อน้ำ เป็นจุดแรกๆ ที่ต้องตรวจสอบ เจ้าหน้าที่เคยพบนักโทษนำโทรฯ ห่อด้วยพลาสติกและถุงเท้าพร้อมก้อนหินเพื่อถ่วงแล้วมัดด้วยตาข่ายก่อนหย่อนลงไปในท่อน้ำที่ถูกตัดออกอย่างแนบเนียน เมื่อต้องการใช้ก็จะใช้ตะขอเกี่ยวขึ้นมา
ส้วม ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบว่านักโทษ มีการแกะกาวปูนออกเพื่อเลื่อนส้วมซึมออกจากฐาน ก่อนหย่อนโทรฯ ที่ห่อด้วยถุงพลาสติกแล้วหย่อนลงไป โดยมีเชือกคล้องไว้กับขอบปูน
อีก 1 รูปแบบคือ พื้นกระเบื้องที่นักโทษจะใช้วิธีกรีดยาแนว เมื่อเอาแผ่นกระเบื้องออกจึงแซะปูนเพื่อเก็บโทรศัพท์ ก่อนนำกระเบื้องมาปิดแล้วเคลือบด้วยกาวหากไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่าเปิดออกมาได้
คงจะมีคำถามว่า แล้วโทรศัพท์มือถือที่นำเข้ามาที่ราคาเท่าไหร่
ราคาโทรฯ เครื่องละหลายแสนบาท เรือนจำความมั่นคงสูงราคาก็จะพุ่งสูงไปถึงหลักล้านบาท
เจ้าหน้าที่เรือนจำเปิดเผยกับ Prime Time ว่าพ่อค้าที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนพกพาด้วยตัวเอง มีนักโทษคนอื่นที่พร้อมรับจ้างเก็บและซ่อนมือถือเหล่านี้ไว้ และส่งมอบให้เจ้าของเมื่อถีงเวลาใช้งาน
ช่วงปี 2557 ถึง 2559 กรมราชทัณฑ์ ได้เข้าตรวจค้นกวาดล้าง โดยยึดโทรศัพท์ มือถือเพื่อตัดวงจรธุรกิจค้ายาภายในเรือนจำคลองเปรม ได้ถึง 1,168 เครื่อง ขณะที่ยึดซิมการ์ดโทรศัพท์ได้ 2,381 อัน ทำให้ธุรกิจมืดในแดนสนธยาชะงักลงไปได้ในระดับหนึ่ง
ขณะที่ เจ้าหน้าที่จาก หน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ให้ข้อมูล กับ"PRIMETIME NEWS"ว่า แม้เรือนจำความมั่นคงสูงหลายแห่งจะมีเครื่องตัดสัญญาณ แต่สัญญาณเหล่านี้ ก็ต้องมีเวลาพัก โดยนักโทษจะรู้ช่วงเวลา และจะพิมพ์ข้อความทิ้งไว้ทั้งใน ไลน์, เอสเอ็มเอส, เฟสบุ๊คหรือแม้แต่ อีเมล พอถึงช่วงที่พักเครื่องข้อความเหล่านี้ก็จะส่งออกมาในทันที บางครั้งเวลาแค่ 1 นาที มีข้อความมากกว่าร้อยข้อความ
และจากการถอดรหัสข้อความที่นักโทษส่ง จากฝ่ายวิเคราะห์และเฝ้าติดตามเครือข่าย หน่วยงานปราบปรามยาเสพติด คำว่าแม่ไก่ หรือไก่ชน จะหมายถึงยาไอซ์ , แม่ไก่ 1 ตัวเท่ากับยา 1 กิโลกรัม , ไข่ ใช้แทนยาบ้า หรือหากเป็นหน้าผลไม้ รหัสยาเสพติด จะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูรหัส เช่น ลำใย จะหมายถึงยาไอซ์ , ส้ม หมายถึงยาบ้า , กระเทียม จะใช้แทนเฮโรอีน
รักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์เชื่อว่าการเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่เรือนจำและการสร้างจิตสำนึกในหน้าที่ บวกกับระบบการตรวจค้นที่ใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การลักลอบเอาโทรศัพท์มือถือเข้าในเรือนจำต่างๆ ลดน้อยลงจนแทบไม่มีคืนนี้(15 มิ.ย. 59).....เมื่อเรือนจำต้องพึ่งระบบการตรวจสอบไฮเทคเพื่อสกัดกั้นการลักลอบของต้องห้ามเข้าไปในคุก