พานทองคำหายจากองค์พระธาตุพนม

ล่าสุดวันนี้นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม ได้ประสานไปทางวัดและตำรวจเพื่อประชุมหารือ พร้อมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า พานทองคำหนัก 42 บาท ได้หายไปจากองค์พระธาตุพนมตามที่มีผู้กล่าวอ้างหรือไม่ โดยมั่นใจว่าทรัพย์สินรวมถึงสิ่งของมีค่าที่บรรจุไว้ในองค์พระธาตุพนม จะไม่หายไปไหน รวมไปถึงพานทองตามที่เป็นข่าวแพร่สะพัดในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้
ทั้งนี้ภายในองค์พระธาตุพนมมีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นที่ 1-3 ใช้บรรจุเก็บรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้มีจิตศรัทธานำมาบริจาค ชั้นที่ 4 เป็นชั้นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า และชั้นที่ 5 ประดิษฐานยอดฉัตรพระธาตุพนมองค์เดิม ในส่วนชั้นที่ 4-5 จะห้ามประชาชน ญาติโยม หรือพระสงฆ์ขึ้นไปกราบสักการะโดยเด็ดขาด แต่ที่มีผู้มีจิตศรัทธานำสิ่งของมาถวายในองค์พระธาตุพนมนั้น เชื่อว่าผู้นำมาถวายอาจเชื่อว่าเป็นการสร้างกุศลและบารมี ในส่วนนี้ทางวัดอาจจะไม่มีการทำบันทึก หรือลงทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน หากใครศรัทธาก็นำมาวางเก็บไว้ได้ ซึ่งยากต่อการตรวจสอบว่า มีใครหรือผู้ใดนำมาวางไว้บ้าง
ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัย ยืนยันว่าใครที่จะเข้าไปสักการะภายในพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ต้องขออนุญาตและมีการพิจารณาจากทางวัดก่อน ขณะเข้าไปสักการะภายในจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเข้าไปทุกครั้ง จึงเชื่อมั่นว่าเป็นการยากที่จะนำของมีค่าออกมาได้ และไม่มีใครที่จะกล้าขโมย หรือโจรกรรมทรัพย์สินออกมาแน่นอน เพราะทุกคนเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกลัวบาปบุญคุณโทษ
ขณะเดียวกันที่ห้องประชุมจุดทวนสัญญาณวัดพระธาตุพนม พระศรีวิสุทธิเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม และรองเจ้าคณะอำเภอธาตุพนม ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง นายกเทศมนตรี และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลจากการประชุมหารือเบื้องต้น ได้มีการบรรจุพานทองคำนี้จริง หลังได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัยองค์พระธาตุพนม ว่าก่อนหน้านี้มีพระลูกวัดและทหารได้เคลื่อนย้ายสิ่งของในพระธาตุไปไว้ที่ถ้ำพญานาค เนื่องจากพระพุทธรูปข้างในพระธาตุเต็ม จนไม่มีทางเดิน โดยมีคำสั่งระบุชัดเจน แต่ไม่พบพานทองคำดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้สั่งให้มีการงดเข้าภายในองค์พระธาตุจนกว่าเรื่องจะยุติ