svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ตร." รวบแก๊งหนูหลับตระเวนลักทรัพย์

14 มิถุนายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. รักษาราชการแทน ผบก.ป. พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. ร่วมกับ พ.ต.อ.ปรีชา เพ็งเภา ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน แถลงผลการจับกุมแก๊งตระเวนลักทรัพย์แก๊งหนูหลับ ประกอบด้วย1.นายพัฒนา หรือเป้ง อินทกาน์ อายุ 49 ปี หัวหน้าแก๊ง

 


ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ ส.254/2556 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2556 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร 2.นายสมชาติ หรือชาติ พรหมเมฆ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงเลข ที่ ส.581/2557 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ 3.น.ส.อุมาพร หรือตุ้ม จอมเกาะ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1140/2559 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เวลากลางคืนโดยผ่านสิ่งกีดกั้นเพื่อคุ้มครองทรัพย์โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 4.นายวิรัตน์ หรือง่อย โพธิ์อินทร์ อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1144/2559 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เวลากลางคืนโดยผ่านสิ่งกีดกั้นเพื่อคุ้มครองทรัพย์โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 5.นายสิทธา หรือแฟร์ ฮะเฮ็ง อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1139/2559 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เวลากลางคืนโดยผ่านสิ่งกีดกั้นเพื่อคุ้มครองทรัพย์โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และ 6.นายอุทัย หรือไข่ แซ่อึ๊ง อายุ 29 ปี เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย พร้อมกันนั้น ได้ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 41 เครื่อง ไอแพด 9 เครื่อง นาฬิการข้อมือ 2 เรือน แหวนเงิน 2 วง พระเครื่องประมาณ 30 องค์ สร้อยคอข้อมือทองคำ กระเป๋าสะพาย เครื่องมือที่ใช้ในการก่อเหตุงัดแงะรถยนต์ อาทิ ท่อนเหล็ก คีม ไขควง ปะแจ ไฟฉาย ไม้ไผ่ ฯลฯ



พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์จากผู้เสียหายที่ขับรถยนต์มาจอดไว้ตามริมถนนเส้นทางสายต่างๆ ในช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืน จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 04.00 น.ของทุกวัน โดยทางผู้ต้องหาจะขับรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่ารถแท็กซี่ แสร้งทำทีขับเข้าไปจอดใกล้ๆ กับรถยนต์เป้าหมายที่เหยื่อจอดรถนอนหลับพักผ่อน หากพบว่ารายใดหลับสนิท ก็จะลงมือก่อเหตุทันทีโดยมีการแบ่งหน้าที่กัน ทั้งคอยดูต้นทาง ใช้อุปกรณ์งัดรถ รื้อค้นทรัพย์สินมีค่า เมื่อได้ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ มาแล้ว ก็จะนำไปขายตามแหล่งรับซื้อ อาทิ ตลาดสินค้ามือสองย่าน จ.ปทุมธานี ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ก่อนนำเงินมาแบ่งกัน ที่ผ่านมา ได้พบว่ามีผู้เสียหายถูกลงมือก่อเหตุในหลายเส้นทาง อาทิ ถนนวิภาวดีรังสิต,ถนนรัชดาภิเษก,ถนนพระราม9ถนนมอเตอร์เวย์ รวมทั้งถนนกาญจนาภิเษก เป็นต้น




ต่อมาภายหลังชุดสืบสวน กก.1และ กก.ปพ.บก.ป.ได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้เสียหาย จึงวางแผนร่วมกับตำรวจนครบาล สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาโดยพบว่ามีการกระทำกันมานาน เมื่อได้พยานหลักฐานต่างๆ แล้ว จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเอาไว้ กระทั่งทางชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ออกตระเวนก่อเหตุอีกครั้งที่บริเวณถนนเชื่อมต่อระหว่าง อ.ศรีมหาโพธิ์ กับ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี แล้วหลบหนีไปอาศัยอยู่ในบ้านพักใน อ.ศรีมหาโพธิ์ จึงวางแผนติดตามเข้าจับกุมที่บ้านพัก แต่ทันทีที่นายพัฒนา พบเห็นตำรวจ จึงขับรถแหกวงล้อม หลบหนีออกมา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวของตนขับชนรถยนต์ของตำรวจชุดจับกุมได้รับความเสียหาย จากนั้นชุดจับกุมจึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสกัดที่ยางรถยนต์ ก่อนเข้าชาร์จจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ในที่สุด ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ตำรวจอีกหลายชุดรวมทั้งในส่วนของ สน.อุดมสุข และ สน.มักกะสัน ได้เข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาและขยายผลยึดทรัพย์สินของกลางกลับคืนมาบางส่วน



สอบสวนนายพัฒนา รับสารภาพว่า จะเลือกเหยื่อที่เดินทางมาคนเดียว ขับรถมาจอดไว้ที่ริมถนน หรือจุดพักรถต่างๆ แล้วปรับเบาะนอนหลับพักผ่อน ซึ่งตนจะทำทีเข้าไปเคาะกระจกเรียก หากผู้เสียหายตื่นขึ้นมา ก็จะแสร้งเป็นพลเมืองดี คอยบอกเตือนให้เหยื่อระมัดระวังหรือสอบถามว่าต้องการความช่วยเหลือใดๆ หรือไม่ แต่หากเหยื่อหลับสนิท ก็จะลงมือก่อเหตุ พร้อมกับนัดแนะให้เพื่อนร่วมแก๊งเข้าลงมือก่อเหตุทันที โดยการลงมือก่อเหตุแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่เกิน1นาที หากเหยื่อเปิดกระจกไว้เล็กน้อย เพียงสามารถสอดไม้เข้าไปได้ ก็จะงัดหน้าต่างรถ และลงมือลักทรัพย์สินต่างๆ ส่วนกรณีที่เหยื่อลดกระจกไว้เพียงเล็กน้อย หรือมีกันสาดก็จะใช้มืองัด แล้วค่อยๆ ลักทรัพย์สิน



นายพัฒนา ให้การต่อว่า สำหรับทรัพย์สินมีค่าที่เคยก่อเหตุได้มาเป็นจำนวนมาก ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และนาฬิกาข้อมือ โดยมีนาฬิกาซึ่งตนมาทราบภายหลังว่ามีมูลค่านับแสนบาท แต่ตนขายไปเพียงหลักหมื่นบาท โดยได้ปลดจากตัวเหยื่อเอง อย่างไรก็ดี ภายใน1คืน จะก่อเหตุได้ประมาณ2ราย ทำมาแล้วนับสิบปี โดยตนไม่เคยทำร้ายร่างกายเหยื่อแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนยังก่อเหตุลักทรัพย์ซึ่งเป็นอาวุธปืนของ ตำรวจ ทหาร รวมถึงประชาชนทั่วไปที่จอดรถแล้วนอนหลับ หลังจากที่ตนงัดแงะกระจกรถสำเร็จแล้วหากพบว่าในรถคันดังกล่าวที่มีอาวุธปืนอยู่ภายในรถ ก็จะทำการลักทรัพย์และนำอาวุธที่ได้ไปให้กับนายสิทธา เพื่อนำไปขายต่อแต่ตนก็ไม่ทราบว่านายสิทธา เอาอาวุธปืนที่ได้จากการลักทรัพย์ดังกล่าวไปขายต่อที่ไหนอย่างไร ทั้งนี้ตนอยากฝากถึงผู้เสียหายว่าหากง่วงนอน หรือขับรถเดินทางต่อไปไม่ไหว ก็อยากแนะนำให้ไปจอดรถนอนพักผ่อนในปั๊มน้ำมันดีกว่า เนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งมีความปลอดภัยกว่าริมถนนสายต่างๆ




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของนายพัฒนา นั้น พบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่อีก4หมายจับ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคดีลักทรัพย์ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก3ราย ที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม โดยทางงตำรวจได้เร่งสืบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำผิดที่เหลือมาดำเนินคดีแล้ว ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกกลุ่มผู้ต้องหาลงมือลักทรัพย์สินไป สามารถตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ ได้






logoline