"PRIMETIME กับ เทพชัย" : เผยเบื้องลึก "ดักสัญญาณ" มาเฟียค้ายา
เมื่อพ่อค้ายาเสพติดถูกจับได้และถูกศาลพิพากษาให้ติดคุก มันก็น่าจะเป็นจุดจบของพ่อค้ายาเสพติดเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงเป็นมันอีกเรื่องหนึ่ง คุกกลับกลายเป็นศูนย์กลางการค้าขายยาเสพติดแห่งใหม่ ใครอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้
ไม่ว่าจะเป็นแม่ไก่ กระเทียม หรือส้ม คนในเครือข่ายเท่านั้นที่จะรู้ว่าทั้งหมดคือรหัสลับในการสั่งซื้อยาเสพติดผ่านทางไลน์ การสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นวิธีการที่ง่ายและได้ผลที่สุดสำหรับคนในขบวนการเหล่านี้
...ข้อความที่ท่านผู้ชมเห็นในขณะนี้ เป็นการสื่อสารระหว่างพ่อค้ายาเสพติดนะครับ การสื่อสารแบบนี้ก็คงเป็นธรมดานะครับ ถ้ามันเกิดขึ้นในที่ที่ทั่ว ๆ ไป แต่ว่าที่ไม่ธรรมดานะครับ และที่ค่อนข้างน่าตกใจคือว่า นี่เป็นการสื่อสารจากจุดที่ผมยืนอยู่ในขณะนี้นะครับ เป็นเรือนนอนของแดนห้า ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษเด็ดขาดของเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง เป็นจุดที่ถือได้ว่า น่าจะปลอดจากการทำอะไรก็ตามนะครับที่ผิดกฎหมายมากที่สุดนะครับ จุดที่ผมยืนอยู่นี้เรียกว่าจุดหัวที ถ้าความหมายของคนในวงการนี้ หรือคนที่นี้ ถือว่าเป็นจุดที่ปลอดจากสัญญาณการถูกแจม ด้วยเครื่องที่จะตัดสัญญาณโทรศัพท์.....
อาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับคนไม่น้อย ที่ที่ไร้เสรีภาพและเต็มไปด้วยการเฝ้าระวังมากที่สุด กลับกลายเป็นที่ที่ขบวนการค้าเสพติดเคยสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่ ปฏิบัติการได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายได้
และเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางคลองเปรม บนถนนงามวงศ์วานแห่งนี้ก็ยอมรับกับรายการ Prime Time ว่ากำแพงคุกแต่เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถสกัดกั้นพฤติกรรมที่ท้าทายกฎหมายได้ตลอดเวลา เป็นเวลาหลายปีที่ โทรศัพท์มือถือถูกลักลอบนำเข้ามาในคุกแห่งนี้ด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ ผู้อยู่เบื้องหลังคือพ่อค้ายาเสพติดที่ยังมีเครือข่ายอยู่ภายนอก
เจ้าหน้าที่ยึดโทรศัพท์มือถือจากนักโทษในเรือนจำกลางคลองเปรมได้กว่า1,600 เครื่องในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่ตัวเลขจากเรือนจำอื่นๆ ทั่วประเทศรวมกันแล้วเป็นหมื่นเครื่อง แล้วปริมาณหรือมูลค่าของยาเสพติดที่ซื้อขายผ่านเครือข่ายในคุกเหล่านี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่ดูเหมือนเป็นคำถามที่ไม่มีใครตอบได้
ทีมข่าว Prime Time ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเรือนจำกลางคลองเปรมเมื่อเร็วๆ นี้เพื่อค้นหาเบื้องหลังของขบวนการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในที่คุมขังคุกแห่งนี้เป็นที่รวบรวมนักโทษยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในกลุ่มคนเหล่านี้คือพ่อค้ายาเสพติดที่ยังจ้องจะทำธุรกิจผิดกฎหมายทันทีที่มีโอกาสพ่อค้ายาเสพติดที่ถูกจับได้อาจจะสูญสิ้นอิสรภาพก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเครือข่ายที่อยู่ข้างนอกจะสลายตัวไปด้วย
"....พ่อค้าที่ถูกจับเข้ามาก็จะมีของอยู่ข้างนอก หรือบางรายก็มีเครือข่าย หรือบางรายมีเครดิต ซึ่งการซื้อขายยาเสพติดจะต้องมีเครดิต การสั่งยาเสพติด โดยคนที่จะขายต้องรู้ว่าใครสั่ง และสั่งมาแล้วจะได้เงินหรือไม่......"
ถึงแม้การสั่งซื้อขายยาเสพติดผ่านคนที่มาเยี่ยมอาจจะเป็นวิธีการง่ายที่สุด แต่สำหรับคนในวงการนี้แล้ว การสั่งซื้อสั่งขายด้วยเสียงของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่างหากที่เป็นวีธีการที่สร้างความไว้วางใจมากที่สุด และไม่มีเครื่องมือสื่อสารไหนสำหรับงานแบบนี้ที่ดีไปกว่าโทรศัพท์มือถือ เพราะเป็นช่องทางการสื่อสารเพียงช่องทางเดียวที่ทำให้ผู้รับสายปลายทางเชื่อมั่นว่ากำลังคุยกัยกับตัวจริงเสียงจริง
นาย กอบเกียรติ กลิวิวัฒร์ รองปลัดยุตุธรรม รักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า การสั่งซื้อยาเสพติดไม่ใช่ใครก็สั่งได้ มันต้องเสียงใช่ เพราะเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ เพราะขายไปไม่รู้จะได้เงินหรือเปล่า หรือขายไปแล้วกลายเป็นสายให้ตำรวจ
ถ้าโทรศัพท์มือถือมีความหมายสำหรับนักโทษที่ยังท้าทายกฎหมายมากขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องแปลกใจถ้ามันจะมีราคามหาศาล
เราต้องพูดกันตรงๆ ว่าเงินที่ค้ายามันเยอะ ก็พร้อมที่จะจ่าย ฉะนั้นราคาโทรศัพท์ก็จะขึ้นมาเรื่อยๆ จากราคาเครื่องละ 2 หมื่น 3 หมื่น 5 หมื่น เรื่อยมาเป็นแสน ถึงสามแสนก็มี นาย กอบเกียรติ กลิวิวัฒร์ กล่าว
ถ้าคุกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาขบวนการยาเสพติด มันก็ต้องถือว่าเป็นความท้าทายคนที่ได้ประกาศที่จะทำสงครามกับยาเสพติด
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ระบุว่า ยอมรับ มีการค้ายาเสพติดในเรือนจำ ปิดไม่ได้ เพราะวันหนึ่งผู้ต้องขังก็ต้องออกไปสู้โลกภายนอก เมื่อปล่อยออกไปแล้ว เขาก็ต้องพูด กรมราชทัณฑ์ตอนนี้ปัญหาลดลงมาก การควมคุมโทรศัพท์ และการควมคุมต่าง ๆ นั่นหมายความว่า เจ้าหน้าที่ได้พัฒนาขึ้นเมื่อนโยบายและคำสั่งจากผู้ดูแลระบบยุติธรรมสูงสุดชัดเจนอย่างนี้ จะเกิดอะไรขึ้นคืนพรุ่งนี้ติดตามตอนที่สองของรายงานพิเศษ เปิดโปงขบวนการค้ายาเสพติดในคุก เผยวิธีการลักลอบขนโทรศัพท์มือถือเข้าคุก และใครที่เกี่ยวข้อง
