"ลูกลิง" เขาใหญ่ 2 ตัว ถูกรถชนตาย

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สลดลิงแม่ลูกอ่อนถูกรถชนตายโดยมีลูกน้อยร้องโหยหวนเกาะที่ศพแม่ลิงเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนสร้างความเศร้าสลดกับภาพที่ปรากฏไปตามสื่อสังคมออนไลน์ และหลายสำนักข่าวและได้มีการเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกครั้งที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงโป่งผาตะแบก เส้นทางป้อมยามเขาเขียว - ปราจีนบุรีหลักกิโลเมตรที่ 33 เขตจังหวัดนครนายก 1 ตัว และ เวลาประมาณ 13.00 น. วันเดียวกันฝั่งอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา บริเวรจุดชมวิวปากช่อง อีก1 ตัว รวมเป็นลูกลิงจำนวน 2 ตัว เคราะห์ร้ายที่ถูกรถของนักท่องเที่ยวเฉี่ยวชนตายบนถนนวันนี้(12 มิ.ย.)

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามนักปั่นจักรยานคนหนึ่งที่อยู่ในอาการเสียใจบริเวณโรงอาหารบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงทราบว่าพึ่งเห็นเหตุการณ์ลูกลิงถูกรถชนจนตาย โดยนายนวรรช(นะ-วัด) หอมเลิศ นักปั่นจักรยานที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ขณะที่ตนกำลังขี่จักรตามรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้า 3 คัน เมื่อตนเองมาถึงจุด ก็พบลูกลิงถูกรถชนคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งใน3คันที่ขับนำหน้าตนไป ซึ่งระหว่างทางก่อนที่จะถึงจุดที่ลูกลิงถูกรถชนตายนั้นมีเศษขยะกองอยู่ข้างทาง คาดว่าสาเหตุที่ลูกลิงตัวนี้ถูกรถชนตาย เนื่องจากออกมาเก็บเศษอาหารที่ถูกทิ้งไว้ข้างทาง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดตนเองรู้สึกเสียใจ และสงสาร ตอนนั้นตนได้หยุดขี่จักรยานเพื่อมาดูอาการลูกลิงขณะนั้นคิดว่าลูกลิงยังหายใจอยู่ แต่ลูกลิงได้ตายไปแล้ว จากนั้นจึงได้ถ่ายรูปเอาไว้

ส่วนตัวแล้วไม่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวให้อาหารสัตว์ป่า เนื่องจากที่ผ่านมาเคยพบเห็นคนให้อาหารลิง ก็ทำให้ลิงนั้นออกมาเต็มท้องถนน แต่หลังจากที่มีการรณรงค์ 4 ม. ลิงที่เคยออกมาก็กลับเข้าป่าและไม่ออกมาอีก แต่ตอนนี้ลิงเริ่มออกมายังแถบฝั่งจังหวัดปราจีนบุรี โดยพบพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ทิ้งขยะให้อาหารลิงตามทาง ทัง้นี้รวมไปถึงนักปั้นจักรยาน บางครั้งก็พบอาหารที่ไว้กินระหว่างทาง ซึ่งระหว่างทีกินก็จะโยนเศษอาหารทิ้งเช่นกัน ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พวกลิงออกมาหาอาหารบนถนนและถูกรถชนตาย นายนวรรช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์มีปริมาณนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมและพักผ่อนบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นจำนวนมาก ก็จะมีกลุ่มเยาวชนจิตอาสามาร่วมกันแต่งกายเป็นรูปสัตว์พร้อมทั้งพูดบอก และ ชูป้าย บอกเตือนนักท่องเที่ยวและผู้ใช้ถนนบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ให้ปฎิบัติตาม กฎ 4 ม. ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่แล้วก็ยังมีผู้ที่ฝ่าฝืนข้อปฎิบัติดังกล่าว จนเกิดเหตุน่าสลดขึ้นอีกครั้ง