โดยขณะนี้ทางศพของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพของทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อให้ทราบว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร พร้อมทั้งรอลายนิ้วมือจากเชือกที่ผูกคอตายโดยทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 6 พิษณุโลกกำลังตรวจสอบ
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเนื่องจากเบื้องต้นการพบศพของผู้เสียชีวิตมีลักษณะแปลก ที่มีการใช้เทปผ้าแลคซีนมัดปากไว้ และยังพบจดหมายข่มขู่ รวมทั้งก่อนที่จะเสียชีวิตมีการได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองพิษณุโลก โดยเรื่องนี้ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีให้สืบสวนสอบสวนอย่างรัดกุมมากที่สุด ส่วนประเด็นที่ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ต้องรอผลพิสูจน์อย่างแน่ชัดถึงจะบอกได้ว่าเป็นการฆาตกรรมหรือผูกคอตายเอง
ทั้งนี้เนื่องจากผู้ตายมีปัญหาทั้งเรื่องโรคประจำตัว ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และหนี้สินจำนวนมากอาจเป็นสาเหตุให้ฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ไม่ทิ้งประเด็นการฆาตกรรมเพราะมีหลายข้อที่ต้องสงสัยว่าเอาเชือกไปผูกกับขื่อได้อย่างไร เทปผ้าแลคซีนที่นำมาปิดปากส่วนที่เหลือหายไปไหน แลคซีนที่นำมาปิดปาก ก็ไม่ได้ใช้ส่วนที่เป็นกาวมาปิดปาก แต่กลับใช้สองแผ่นมาแปะติดกัน ซึ่งในส่วนนี้ พิสูจน์หลักฐาน ต้องตรวจดีเอ็นเอ ว่ามีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นบนเทปผ้าแลคซีนที่ปิดปากผู้เสียชีวิตด้วยหรือไม่ รวมทั้งเรื่องของกระเป๋าที่เป็นปริศนา และรอยเท้าที่พบด้านหลังบ้าน แต่อย่างไรก็จะเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว
ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า การดำเนินการสอบสวนได้ยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ยังคงต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดจากแพทย์เวร ซึ่งจากการตรวจสภาพศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย จากเวลารับแจ้งพบศพ ช่วงค่ำของวันที่ 7 มิถุนายน 2559 คาดว่า จะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง หรืออยู่ในช่วงเวลา 10.00-12.00 น. ของวันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงเวลากลางวัน และต้องพิจารณาหลักฐานหลายอย่างประกอบการชันสูตร การทำคดี
เนื่องจาก มีข้อสงสัยเรื่องประเด็นข้อความการข่มขู่ ที่เขียนมาติดไว้หน้าบ้านผู้เสียชีวิต เป็นการเขียนบนจดหมายที่ส่งมาที่บ้านผู้เสียชีวิตเอง ซึ่งต้องไปพิสูจน์ลักษณะลายมือ ว่าเป็นลายมือของผู้เสียชีวิตหรือไม่ การเข้าไปแจ้งความโดนข่มขู่ที่สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา และบันทึกส่วนตัวของผู้เสียชีวิต ที่เขียนไว้จำนวน 6 หน้ากระดาษ ลงเวลา 23.00 น.ของวันที่ 6 มิถุนายน
ที่เขียนมีใจความสรุปว่า มีการข่มขู่ และมีข้อน่าสังเกตอยู่มาก เนื่องในบันทึก กับเขียนบอกไว้ด้วยว่า ถ้าตายไป เงินจากประกันชีวิตที่ทำไว้ ระบุมอบให้บางคน และให้นำไปใช้หนี้ พร้อมเขียนบอกในบันทึกด้วยว่า ถ้าเสียชีวิต ให้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกมะตูม หรือ วัดศรีวิสุทธาราม เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าฆ่าตัวตายเอง ประกันก็จะไม่ชดใช้สินไหมให้ ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นการฆาตรกรรม หรือ การฆ่าตัวตาย ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม พยานบุคคล ทุกอย่างมาประกอบ