นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณี เต่ายูนิฟอร่า จากมาดากัสการ์ ซึ่งเป็นเต่าที่หายากที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศมาดากัสการ์และมีมูลค่าสูงมาก จำนวน 6 ตัว และเต่าดาวรัศมีหรือเต่าราเดียต้า เต่าที่มีกระดองสวยเหมือนแฉกดาว 72 ตัว หายไปจากสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่า เต่าดังกล่าวหายไปจริง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยเต่ายูนิฟอร่า หายไป 6 ตัว เป็นตัวใหญ่ อายุประมาณ 10 ปี ขนาด 12 นิ้ว 1 ตัว ราคาตัวละประมาณ 1 - 2 ล้านบาท และขนาดตัวเล็ก อายุประมาณ 3 - 4 ปี ขนาด 6 นิ้ว 5 ตัว ราคาตัวละประมาณ 2 แสนบาท และเต่าราเดียต้า 72 ตัว ราคาตัวละตั้งแต่ 3,000 - 10,000 บาท
เต่าทั้ง 2 ชนิดที่หายไปมีมูลค่ารวมกันกว่า 3 ล้านบาท ที่สำคัญ เต่ายูนิฟอร่า จัดเป็นเต่าบกหายากที่สุดของโลกและอยู่ในทะเบียนแนบท้าย 1 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์หรือไซเตสด้วย เหลืออยู่ไม่ถึง 400 ตัวในธรรมชาติเท่านั้น และเป็นเต่าที่มีกระดองสวยงาม เป็นที่ต้องการในตลาดสัตว์เลี้ยง ส่วนเต่าราเดียต้า ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากถูกล่าอย่างหนัก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ศรีราชา โดยขณะนี้ได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ศรีราชา
นอกจากนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และได้เสนอให้ย้ายหัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ ออกจากพื้นที่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย เพราะที่ผ่านมามีสัตว์หายไป 2-3 ครั้งแล้ว