svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สรยุทธ-ไร่ส้ม อ่วม! อัยการฟ้องเพิ่ม 3 ข้อหา

02 มิถุนายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก - 2 มิ.ย.59 - อัยการฟ้อง "สรยุทธ-ไร่ส้ม" อีก 3 ข้อหา ปลอมเอกสารสิทธิ-ใช้เอกสารสิทธิปลอม-ทำลายเอกสาร หลังจบคดีอาญาทุจริตค่าโฆษณาส่วนเกินกว่า 138 ล้าน ขณะที่ "สรยุทธ" แจกเอกสารสื่อ แจงคดีซ้ำซ้อน

เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงผลสั่งคดี กล่าวหา บจก.ไร่ส้ม, น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม, น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดังและ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม, น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม และ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือ นางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 1-6 ฐานร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เสียหาย และทำลายเอกสารของผู้อื่น มูลค่าทรัพย์จากเหตุที่ไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินกว่า 138 ล้านบาทภายหลังได้รับสำนวนหลักฐาน จากพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้อง บจก.ไร่ส้ม, นายสรยุทธ, น.ส.มณฑา และน.ส.พิชชาภา ผู้ต้องหาที่ 1, 4-6 ฐานร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมเอกสารฯ และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง น.ส.สุกัญญา และน.ส.อังคณา ทั้งสองซึ่งเป็นพนักงานบจก.ไร่ส้ม

สรยุทธ-ไร่ส้ม อ่วม!  อัยการฟ้องเพิ่ม 3 ข้อหา

โดย ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจากรับสำนวนแล้ว คณะทำงานฯ พิจารณาพยานหลักฐานทั้งปวงในสำนวนสอบสวนและหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาแล้ว เห็นว่าประเด็นที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด รับฟังได้เฉพาะข้อหาร่วมกันฉ้อโกงที่ขอให้อัยการสั่งยุติการดำเนินคดีส่วนประเด็นอื่นที่ร้องขอความเป็นธรรมไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานในสำนวนคดีได้ คดีมีหลักฐานพอฟ้อง จึงสั่งฟ้อง บจก.ไร่ส้ม , นายสรยุทธ, น.ส.มณฑา, และน.ส.พิชชาภา ในความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารของผู้อื่นในการที่จะน่าเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 188, 264, 265 และ 268 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 ขอริบใบคิวโฆษณาของกลางรวมทั้งขอนับโทษต่อจากโทษจำคุก ตามคำพิพากษาของศาลอาญา หมายเลขแดง อ.595-596/2559 ที่อัยการยื่นฟ้องตามความผิดพ.ร.บ.พนักงานองค์การของรัฐฯ ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และจำคุกน.ส.พิชชาภา 20 ปี ปรับ บจก.ไร่ส้ม 80,000 บาท และคดีอาญาหมายเลขดำ อ.8134/2558 ของศาลแขวงพระนครเหนือ

สรยุทธ-ไร่ส้ม อ่วม!  อัยการฟ้องเพิ่ม 3 ข้อหา

โดยอัยการเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง น.ส.สุกัญญา และ น.ส.อังคณา ผู้ต้องหาที่ 2-3 ในทุกข้อหาดังกล่าว เนื่องจากคณะทำงานมีความเห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอร.ท.สมนึก กล่าวอีกว่า สำหรับความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง คณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นควรยุติการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด เพราะเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว และ บมจ.อสมท. ผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องแล้ว ไม่ว่าจะฟ้องก่อนหรือหลังจากที่พนักงานอัยการได้รับสำนวนการสอบสวน ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 55(9)คดีนี้คณะทำงานฯ ได้เสนอนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เพื่อพิจารณา ซึ่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งฟ้อง บจก.ไร่ส้ม, นายสรยุทธ, น.ส.มณฑา และน.ส.พิชชาภา และสั่งไม่ฟ้องน.ส.สุกัญญา และน.ส.อังคณา พร้อมทราบการสั่งยุติการดำเนินคดีตามที่คณะทำงานเสนอ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดต่อมาเวลา 10.00 น. นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงาคดีอาญา ได้นำคำฟ้องพร้อมตัวผู้ต้องหา ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเป็นจำเลย ในความผิดดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างที่ศาลอธิบายคำร้องและสอบคำให้การจำเลยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ถูกนำตัวมาฟ้อง ทีมงานนายสรยุทธ ได้แจกเอกสารเกี่ยวกับคดีให้สื่อมวลชน สรุปว่า การกล่าวหาหรือฟ้องในความผิดร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ น่าจะขัดต่อประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) เพราะเป็นการดำเนินคดีซ้ำซ้อนกับคดีอาญาที่ศาลอาญามีคำพิพากษาไปแล้ว และในเรื่องดังกล่าว บมจ. อสมท. ก็ได้ยื่นฟ้องคดีเองต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ไปเมื่อวันที่ 28 ก.ค.58 เป็นคดีหมายเลขดำ 8134/2558 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่ ดังนั้น อัยการจึงไม่จำเป็นต้องฟ้องคดีเอง และเป็นที่น่าสงสัยว่าภาพถ่ายรายงานการสอบสวนคดีอาญา ประกอบด้วย ความเห็นพนักงานสอบสวน สรุปคำให้การของตน บจก.ไร่ส้ม และพยานในคดี ถูกนำไปเผยแพร่โดยสื่อมวลชนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังมีการแสดงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่ไม่ถูกต้อง ทำให้สาธารณชนเข้าใจว่าเป็นเรื่องใหม่ และชี้นำว่ามีการกระทำผิดอีกผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับความผิดฐานเกี่ยวกับเอกสาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี

logoline