ไม่มีการทั้งในวาระของการประชุม และไม่มีทั้งการหารือกันนอกรอบ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากรณีของพระธัมมชโย ของมหาเถระสมาคนในวันนี้ แต่สำนักงานพระพุทธศาสนา บอกว่าเรื่องนี้ควรแก้ไขด้วยระบบการปกครองของสงฆ์
วันนี้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เดินทางมาเป็นประธานในที่ประชุมมหาเถรสมาคม โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มทักทายสื่อมวลชน ที่มาเฝ้าติดตามทำข่าวว่าจะมีกรณีพระธัมมชโยเข้า หารือในที่ประชุมหรือไม่
การประชุมใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายประดับ โพธิกาญจนวัตร ก็ออกมาแถลงข่าวว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม ไม่มีการหารือกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหนังสือถึง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเพื่อขอให้ช่วยเจรจาพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย หรือเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้รับทราบข้อกล่าวหาในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น
รวบทั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ในที่ประชุมมหาเถรสมาคม แต่เข้าใจว่าเป็นการทำหนังสือถึง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์โดยตรง ส่วนที่มีการมองว่าสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์ ของพระธัมมชโยนั้น พระอุปัชฌาย์มีหน้าที่ดูแลอบรมพระที่มาบวชด้วย หลังจากพ้น 5 พรรษา ไปแล้ว ก็จะพ้นจากการดูแล
นายประดับบอกว่า เห็นว่าการแก้ปัญหากรณีเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ต้องเป็นไปตามลำดับการปกครองของคณะสงฆ์ โดยเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะปกครอง ซึ่งก็คือเจ้าคณะจังหวัดมีอำนาจการแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าอาวาส ในพื้นที่ ซึ่งหากเจ้าคณะปกครองระดับจังหวัดไม่สามารถแก้ปัญหาการปกครองในพื้นที่ให้ได้ข้อยุติ ก็สามารถขอให้เจ้าคณะภาคลงมาช่วยแก้ปัญหาได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกำลังร่วมกับ ดีเอสไอ เจรจากับทางวัดพระธรรมกายเพื่อหาทางออกร่วมกัน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายสงสัยในเรื่องของการสึกพระธัมมชโย ที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญานั้น มีกำหนดไว้ใน มาตรา 29 ใน พรบ.คณะสงฆ์ แก้ไขเพิ่มเติม 2535 โดย หากเจ้าหน้าที่สอบสวนให้ประกันตัว ก็สามารถดำรงค์ความเป็นพระต่อไป แต่ถ้าหากต้องถูกคุมขัง ก็ต้องทำการสึกครับ