เมื่อเวลา 13.00 น.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีหากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่ดำเนินการจับกุมตัวพระธัมมชโย ตามหมายจับของศาลในข้อหารับของโจร จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า หากดีเอสไอไม่ดำเนินการก็มีส่วน แต่บางคดีที่ผู้ต้องหาหนีก็ไม่รู้จะจับอย่างไร ซึ่งทุกอย่างต้องทำตามกระบวนการ ซึ่งเมื่อขั้นตอนเดินหน้าแล้วก็ต้องเดินต่อ ตามที่นายกรัฐมนตรีพูดก็ถูกต้องว่าทุกอย่างขอให้ทำตามกฎหมาย และตนขอเพิ่มอีกคำหนึ่งเข้าไปคือต้องทำตามพระธรรมวินัย
เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน มีเพียงประเด็นเดียวคือบุคคลคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินคดี เพราะฉะนั้นจึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฎหมาย และหน้าที่ของผู้ต้องหาคือต้องให้ความร่วมมือ ทำให้ทุกอย่างโปร่งใส ผิดหรือไม่ผิดก็ไปบอกกับเจ้าหน้าที่ แต่ถ้าหลบกันไปหลบกันมามันก็คือความไม่โปร่งใส เท่ากับไม่ชอบมาพากล ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าผู้ต้องหารายนี้มีลูกเล่นเยอะนั้น ตนก็เข้าใจ แต่เจ้าหน้าที่ต้องมีวิธีแก้ลูกเล่น กฎหมายให้อำนาจเอาไว้ตั้งเยอะแยะ วิษณุ เผย เห็นด้วย แก้ปัญหา ธัมมชโย ควรประสานเป็นการภายใน ไม่ใช่ดึง สมเด็จช่วง ลงมาจัดการ มันข้ามขั้นตอน หวั่น เกิดปัญหาใหม่ตามมา
นายวิษณุ กล่าวว่า ในฝ่ายของคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องควรจะไปประสานเป็นการภายในเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากพระสงฆ์มีการปกครองกันตามลำดับ ไม่ใช่มีเรื่องอะไรก็ไปถึงพระสังฆราชเรื่องนี้เมื่อเจ้าอาวาสถูกกล่าวหาก็อยู่ในความดูแลของเจ้าคณะจังหวัด หรือถ้าพ้นจากนี้ก็คือเจ้าคณะภาคหนึ่ง พ้นจากนี้ขึ้นไปคือเจ้าคณะหนกลาง จากนั้นจึงจะถึงมหาเถรสมาคม(มส.) แต่วันนี้บอกไม่เป็นไร ให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการสมเด็จพระสังฆราชลงมาจัดการ มันข้ามขั้นตอนพระธรรมวินัย และกฎหมายคณะสงฆ์ แต่ถ้าจะประสานเป็นการภายในโดยเหตุว่าเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ของพระธัมมชโย คงมีความเคารพนับถือกัน พูดจากันได้ แต่ควรเป็นการประสานภายใน ไม่ควรนำเสนอออกเป็นข่าว
ผมเห็นด้วยถ้าจะประสานภายใน แต่พอไปออกข่าวเหมือนหนึ่งเป็นหน้าที่ ต่อไปก็จะเกิดปัญหา ถ้าขัดแย้งกัน ท่านบอกทำไม่ได้หรือไม่ทำ คนก็จะหันไปโจมตีวัดปากน้ำฯ แทนวัดพระธรรมกาย ประเด็นจะกลายเป็นเรื่องอื่น ยิ่งใครบอกเอาเรื่องให้มหาเถรสมาคม (มส.) ที่เป็นเหมือนครม.ของพระ ถามว่าถ้าข้าราชการคนหนึ่งทำผิดหรือถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด ตำรวจก็ไปจัดการ มีไหมที่เอาเรื่องเข้าครม.ขอให้จัดการ มันไม่มี แต่ถ้าประสานภายในแจ้งเพื่อทราบว่ามีปัญหาอะไรก็ทำได้ ผมถึงบอกว่าอย่าไปดึงมหาเถรฯ มาเลย ตรงนั้นเป็นเวทีที่มีพระที่เป็นทั้งสมเด็จและไม่ใช่สมเด็จ มีทั้งธรรมยุตและมหานิกาย มีทั้งพระที่ผมไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไรกับวัดพระธรรมกาย ถ้าโยนปัญหาเข้าไปในเวทีนั้นก็จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมา แล้วถ้ามติมหาเถรฯ ไม่เป็นที่สบอารมณ์คน ก็จะกลายเป็นจำเลยของสังคม เกิดเป็นกรณีใหม่ขึ้น ทำไมต้องแก้วิกฤตหนึ่ง โดยสร้างวิกฤตใหม่ นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สามารถเข้าไปแก้ปัญหาตรงนี้ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประสานให้ได้ วันนี้พูดก็พูดเขาได้ทำอะไรกันอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว เท่าที่เขาทำได้ เขาไม่ได้เป็นผู้ปกครองพระ แต่เป็นผู้รับใช้พระ จึงอาศัยความที่รู้จักพระเยอะ เขาก็มีวิธีการ ทุกอย่างทำเป็นการภายใน อย่าให้ออกข่าวด้วยการดึงออกมาเป็นคู่กรณี นายวิษณุ กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่บุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสตามกฎหมายเรียกว่าเจ้าพนักงานถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์ รับของโจร และฟอกเงิน ซึ่งเป็นข้อหาที่ตั้งให้ใครต่อใครเยอะแยะไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่บังเอิญทุนทรัพย์เยอะ สมาชิกเครือข่ายเยอะ มันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่มวลชนและผลกระทบ ซึ่งก็มีวิธีจัดการของมันอีกอย่าง ตนดูนายกฯ ก็ไม่ได้หนักใจอะไร ก็ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย