ห่วงดึง "สมเด็จช่วง" เจรจา "ธัมมชโย" กระทบสถาปนาสังฆราช

รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายชยพล พงษ์สีดา บอกว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดของหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่งประสานมาที่ พศ.โดยอยากให้มีคนกลางประสาน ให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รับทราบข้อกล่าวหา เพราะเป็นหนังสือลับที่ส่งถึงนายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ. ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) แต่ทาง พศ.ให้เจ้าหน้าที่ส่งหนังสือต่อ ไปยังพระพรหมโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษี เจริญในฐานะประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชแล้ว
รอง ผอ.พศ. บอกว่า ส่วนกรณีที่ดีเอสไอ จะขอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ช่วยเจรจากับพระธัมมชโย ก็ขึ้นอยู่กับดำเนินการของประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อท่านได้รับหนังสือแล้ว จะมีการพิจารณาเช่นไร หากมีการถวายรายงานต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และเห็นสมควรอย่างไร พศ.ก็พร้อมจะดำเนินการตาม

ผศ.ดร.เมธาพันธุ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา(สนพ.) บอกว่า การที่ดีเอสไอ ขอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไปเจรจากับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น ถือว่าดีเอสไอดำเนินการผิดขั้นตอนตอนตั้งแต่แรกโดยช่วงที่ดีเอสไอ ได้รับคำสั่งจาก รมว.ยุติธรรม ให้ดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย ก็ควรปรึกษากับ พศ.ตั้งแต่ต้น แต่ดีเอสไอไม่ดำเนินการกลับออกหมายจับเลย โดยไม่ปรึกษาคณะสงฆ์ ขณะนี้พ้นขั้นตอนที่จะปรึกษาคณะสงฆ์มาแล้ว และข้อเสนอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ช่วยเจรจาก็มาจากความเห็นของ นพ.มโน เลาหวณิช ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับวัดพระธรรมกาย
ผศ.ดร.เมธาพันธุ์ บอกอีกว่า ตนห่วงว่าเมื่อมีการนำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะนำไปอ้างว่าเป็นอุปัชฌาย์แล้วไม่ยอมดำเนินการ จะทำให้การพิจารณาของรัฐบาลในเรื่องการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชล่าช้าไปอีก รวมทั้งทำให้สังคมคลางแคลงใจยิ่งขึ้น ขณะที่การดำเนินการในส่วนของสงฆ์นั้นต้องรอให้คดีทางโลกเสร็จสิ้นลงก่อนจึงพิจารณาไปตามกระบวนการได้