ชาวบ้านฟ้องเหมืองทอง จ่ายคนละ 1.5 ล้าน

สภาทนายความ เป็นตัวแทน ยื่นฟ้องคดีให้กับชาวบ้านใน 2 ตำบลของจังหวัดพิจิตร และเพชรบูรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ โดยมีการเรียกค่าชดเชยถึงรายละ 1.5 ล้านบาท ขณะที่แกนนำชาวบ้านเผยว่า มีผู้ขู่เอาชีวิตให้ยุติการเคลื่อนไหว
กลุ่มชาวบ้าน จากตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับสภาทนายความ เข้ายื่นสำเนาฟ้องบริษัท อัครารีซอร์เซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี เนื่องจาก ชาวบ้านผลกระทบด้านสุขภาพ ขาดประโยชน์ในการใช้แหล่งน้ำตามธรรมชาติ บ่อน้ำบาดาล บ่อน้ำตื้น วิถีเกษตกรรมถูกทำลาย
ทนายความจากสภาทนายความผู้ฟ้องคดี นายสมชาย อามีน บอกว่าศาลจะนัดไต่สวนรับคำฟ้องในวันที่ 8 กรกฎาคม โดยในสำนวนการฟ้องประกอบด้วยข้อมูลหลักฐานต่างๆ เช่นผลการตรวจเลือดที่พบสารโลหะ แม้รัฐจะไม่ฟันธงว่าเกิดจากการทำเหมืองหรือไม่ แต่ก็พบความเชื่อมโยงในหลายประเด็น ทั้งยังอ้างข้อกฎหมายใน พรบ.สิ่งแวดล้อม 2550 ม.93 และ 97 ระบุให้สันนิฐานว่าผู้ประกอบการเป็นผู้ทำให้เกิดมลพิษ และพรบ.แร่ 2510 ที่ระบุทิศทางใสข้อกฎหมายเดียวกัน
นายสมชาย บอกว่า นี่การฟ้องคดีแบบกลุ่ม (class action) ที่มีสมาชิกร่วมฟ้อง จำนวน กว่า 300 ราย มีรายการเรียกร้องค่าชดเชยจากการรักษาพยาบาล ค่าเสื่อมสุขภาพ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและค่าเสียประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ รวมแล้ว 1.5 ล้านบาทต่อราย และในระหว่างนี้อาจมีผู้ได้รับผลกระทบยื่นหลักฐานร่วมเป็นสมาชิกฟ้องเพ่มเติมได้อีก ซึ่งคาดว่าน่าจะมีถึง 1000 คนในรอยต่อ 3 จังหวัดที่ทำเหมือง
ด้านตัวแทนชาวบ้านที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวสื่อกัญญา ธีระชาติดำรงค์ บอกว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำการตรวจสอบผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ เปิดเผยข้อเท็จจริงไม่ครบ จึงไม่ยอมฟังธงว่าผลกระทบเกิดจากเหมืองหรือไม่
ขณะเดียวกัน ตนได้รับการข่มขู่เอาชีวิต หากไม่ยุติการเคลื่อนไหวโจมตีการทำเหมืองแร่ ซึ่งได้บอกไปกับแกนนำชาวบ้านทุกคนในระวังตัว และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไว้แล้ว
สภาทนายความ เป็นตัวแทน ยื่นฟ้องคดีให้กับชาวบ้านใน 2 ตำบลของจังหวัดพิจิตร และเพชรบูรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ โดยมีการเรียกค่าชดเชยถึงรายละ 1.5 ล้านบาท ขณะที่แกนนำชาวบ้านเผยว่า มีผู้ขู่เอาชีวิตให้ยุติการเคลื่อนไหว
กลุ่มชาวบ้าน จากตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับสภาทนายความ เข้ายื่นสำนวนฟ้องบริษัท อัครารีซอร์เซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี เนื่องจาก ชาวบ้านผลกระทบด้านสุขภาพ ขาดประโยชน์ในการใช้แหล่งน้ำตามธรรมชาติ บ่อน้ำบาดาล บ่อน้ำตื้น วิถีเกษตกรรมถูกทำลาย
ทนายความจากสภาทนายความผู้ฟ้องคดี นายสมชาย อามีน บอกว่าศาลจะนัดไต่สวนรับคำฟ้องในวันที่ 8 กรกฎาคม โดยในสำนวนการฟ้องประกอบด้วยข้อมูลหลักฐานต่างๆ เช่นผลการตรวจเลือดที่พบสารโลหะ แม้รัฐจะไม่ฟันธงว่าเกิดจากการทำเหมืองหรือไม่ แต่ก็พบความเชื่อมโยงในหลายประเด็น ทั้งยังอ้างข้อกฎหมายใน พรบ.สิ่งแวดล้อม 2550 ม.93 และ 97 ระบุให้สันนิฐานว่าผู้ประกอบการเป็นผู้ทำให้เกิดมลพิษ และพรบ.แร่ 2510 ที่ระบุทิศทางใสข้อกฎหมายเดียวกัน
นายสมชาย บอกว่า นี่เป็นการฟ้องคดีแบบกลุ่ม (class action) ครั้งแรก ที่มีสมาชิกร่วมฟ้อง จำนวน กว่า 300 ราย มีรายการเรียกร้องค่าชดเชยจากการรักษาพยาบาล ค่าเสื่อมสุขภาพ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและค่าเสียประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ รวมแล้ว 1.5 ล้านบาทต่อราย และในระหว่างนี้อาจมีผู้ได้รับผลกระทบยื่นหลักฐานร่วมเป็นสมาชิกฟ้องเพ่มเติมได้อีก ซึ่งคาดว่าน่าจะมีถึง 1000 คนในรอยต่อ 3 จังหวัดที่ทำเหมือง
ด้านตัวแทนชาวบ้านที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวสื่อกัญญา ธีระชาติดำรงค์ บอกว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำการตรวจสอบผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ เปิดเผยข้อเท็จจริงไม่ครบ จึงไม่ยอมฟังธงว่าผลกระทบเกิดจากเหมืองหรือไม่
ขณะเดียวกัน ตนได้รับการข่มขู่เอาชีวิต หากไม่ยุติการเคลื่อนไหวโจมตีการทำเหมืองแร่ ซึ่งได้บอกไปกับแกนนำชาวบ้านทุกคนในระวังตัว และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไว้แล้ว