สั่งปิด 16 จุดปะการังฟอกขาว ใน 8 อุทยานแห่งชาติทางทะเล
กรมอุทยานฯ ปิด 16 จุดปะการังฟอกขาวในอุทยานทางทะเล 8 แห่ง พร้อมทำความเข้าใจผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวให้ร่วมมือ ด้าน ทช.ชี้อุณหภูมิน้ำทะเลยังสูง คาดปะการังวิกฤติหนักกว่า 53
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายธัญญา เนติธรรมกุล บอกว่า ในส่วนของพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล 10 แห่งที่สำรวจพบปัญหาปะการังฟอกขาวระดับ 40 ถึง 80% ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณจุดดำน้ำ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอัน ดามัน ที่สำรวจพบปะการังฟอกขาวปิดเกาะท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ 16จุดใน 8 อุทยาน เช่น เกาะยูง อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา เกาะมะพร้าว เกาะงามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะกุลา ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
เกาะแหลมหญ้า เกาะทะลุ เกาะกุฎี อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ. ระยอง เกาะอายัมและเกาะรัง เกาะบุโหลนไม้ไผ่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงได้จัดทำประกาศเพื่อแจ้งเตือนผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมในบริเวณแนวปะการัง
นายธัญญา บอกว่า นอกจากนี้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดำเนินการเข้มงวดไม่ให้เรืออวนลาก-อวนรุน เขาทำประมงในเขตอุทยานฯ รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดที่กักเก็บของเสียบนเรือ หากไม่มีห้ามเข้าอุทยานฯ เด็ดขาด และสั่งห้ามนักท่องเที่ยวงดให้อาหารปลา รวมทั้งดักจับสัตว์น้ำทุกชนิดในแนวปะการังอย่างเด็ดขาด ทั้งมีแผนติดตามสถานภาพและการฟื้นตัวของแนวปะการัง โดยร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นักวิจัย และกลุ่มอนุรักษ์ปะการัง
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน บอกว่า จากการคาดการณ์ตามองค์การวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ พบว่าปะการังฟอกขาวในประเทศไทยปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงที่สุด มากกว่าครั้งเลวร้ายที่สุดเมื่อปี 2553 สอดคล้องกับประเทศออสเตรเลียที่ขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาปะการังฟอกขาวครั้งเลวร้ายที่สุด ซึ่งสูงถึง 90% ในปีนี้ด้วยเช่นกัน