ฝั่ง ลิเวอร์พูล ของผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงเล่น 14 นัด ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 6 เสมอ 7 แพ้ 1 ได้ 18 เสีย 10 โดยนัดเดียวที่แพ้คือรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ให้กับ เยลโล่ซับมารีน บียาร์รีล ซึ่งเป็นทีมจากสเปน เช่นเดียวกับเซบีญ่า
ส่วนสภาพทีมจะไม่มีผู้เล่นชุดใหญ่ เพียงคนเดียวคือ มามาดู ซาโก เซนเตอร์แบ็ก ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสารต้องห้าม ส่วนอีกคนที่ยังเจ็บ คือ โจ โกเมซ กองหลังสารพัดประโยชน์ วัย 18 ปี ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงแบ็กโฟร์ แต่ไม่ส่งผลกระทบกับการจัดทีมชุดนี้ ขณะที่ ดิว็อก โอริกี กองหน้า ยังต้องรอประเมินสภาพร่างกาย
ดังนั้นผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริง 11 คนแรก ในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู : ซิมงต์ มิโญเลต์ แบ็กโฟร์จากซ้าย : อัลแบร์โต้ โมเรโน, โคโล่ ตูเร, เดยัน ลอฟเรน, นาธาเนียล ไคลน์ มิดฟิลด์คู่กลาง : เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์ สามกองกลางตัวรุกจากซ้าย : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลานา และกองหน้า : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์.ฝั่ง เซบีญ่า ของผู้จัดการทีม อูไน เอเมอรี ลงเล่น 14 นัด ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 6 ได้ 21 เสีย 18 โดยรอบแบ่งกลุ่มถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แพ้ถึง 4 นัดและ 2 ใน 4 นัด แพ้ให้กับ เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ ทีมจากอังกฤษ เช่นเดียวกับลิเวอร์พูล ทั้งนัดเหย้า-เยือนเป็นสาเหตุให้จบอันดับ 3 ของกลุ่ม หล่นมาเล่นถ้วยยูโรป้า ลีก และเมื่อมาเล่นรอบแพ้คัดออกในถ้วยยูโรป้า ลีก ต้องพึ่งการดวลจุดโทษเข้ารอบมาหนึ่งครั้ง ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่พบกับ แอธเลติก บิลเบา คู่ต่อสู้ร่วมชาติของตัวเอง