svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

มติ ป.ป.ช. ไม่ถอนฟ้องคดีสลายม็อบพันธมิตร ปี 51

17 พฤษภาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

17 พ.ค. -- ป.ป.ช. มีมติไม่ถอนฟ้องในคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ปี 51 อ้างเหตุพยานหลักฐานผู้ร้องเรื่องเก่า

                              นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรปี 2551 ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ที่ประชุมของคณะทำงานในวันนี้ (17 พ.ค.) ได้ข้อสรุปแล้วว่า จะเสนอแนวทางอย่างไร โดยให้เลขานุการของคณะทำงานฯ สรุปรายละเอียดและเรียบเรียงจัดทำเอกสาร เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะทำงานฯลงนามมติดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 24 พ.ค. 59 ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ อย่างเป็นทางการ 
                          ขณะนี้คณะทำงานได้แนวทางที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีความเห็นชอบอย่างไรนั้น คงจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำหรับแนวทางที่เสนอนั้น ไม่ได้มีเป็นข้อๆ แต่เป็นเพียงภาพรวมที่ได้พิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และความคิดเห็นต่างๆ นายสรรเสริญ กล่าว
               ส่วนประเด็นที่สื่อมวลชนสงสัยว่าคณะทำงานฯจะมีข้อเสนอแนะต่อประเด็นนี้ที่เกี่ยวโยงกับพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เพื่อให้ข้อเสนอแนะว่า ควรจะร่วมลงมติหรือไม่นั้น นายสรรเสริญ กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่ของคณะทำงาน เพราะมีหน้าที่เพียงพิจารณากรอบการทำงาน ตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
                   แหล่งข่าวจากสำนักงานป.ป.ช.แจ้งว่า แนวทางการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบที่สุด เนื่องจากอาจจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์โดยรวมขององค์กร นอกจากดูในประเด็นพยานเอกสารหลักฐานใหม่ที่ผู้ร้องยื่นมาว่าเป็นไปตามนั้นหรือไม่ มีความเหมาะสมหรือไม่ และกฎหมายให้ทำได้หรือไม่ เนื่องจากต้องส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว และยังต้องดูระเบียบศาลฎีกาฯด้วยว่า สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งต้องถูกต้องตามข้อกฎหมายด้วย
        นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาตามข้อเสนอของคณะทำงานฯว่า มีความเห็นอย่างไร ให้ความเป็นธรรมต่อผู้ร้องหรือไม่ ขณะเดียวกันต้องความถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมาย ป.ป.ช. เพราะ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ต้องดูตรงนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาโดยนำ 2 สำนวนคดีที่คล้ายกัน คือคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 กับคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรปี 2551 มาเปรียบเทียบกัน โดยดูว่าการดำเนินการสลายการชุมนุมในปี 2551 เป็นการใช้แผนปฏิบัติการฉุกเฉินในการสลายการชุมนุมหรือไม่

 เนื่องจากการดำเนินการสลายการชุมนุมปี 2553 จะมีแผนการปฏิบัติงานตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ส่วนกรณีความเหมาะสมที่ พล.ต.อ.วัชรพล จะร่วมลงมติถอนฟ้องคดีดังกล่าวหรือไม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล ต้องพิจารณาเองว่า ในเมื่อเป็นประเด็นทางสังคม และมีคนท้วงติงก็อาจจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและความเกี่ยวข้อง เนื่องจากประธาน ป.ป.ช. เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ควรหรือไม่ควรนั่งร่วมพิจารณา   จะถอนตัวในการลงมติหรือไม่ คนอื่นคิดแทนไม่ได้ 
               ล่าสุดแหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า คณะทำงานมีมติไม่ถอนฟ้องในคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ปี 51 เนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานที่ผู้ร้องยื่นเข้ามาเป็นเรื่องเก่า นอกจากนี้ได้ชี้แจงเหตุผลต่อข้อร้องเรียนเป็นข้อ ๆ จนเสร็จสิ้นข้อสงสัยแล้ว 

logoline