svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ศานิตย์" จ่อแจ้งจับ!คนโพสต์หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน "คดีแก๊งลูกตร.รุมฆ่าชายพิการ"

17 พฤษภาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รท.ผบช.น.จ่อแจ้งจับคนโพสต์ความเห็นคดีรุมยำคนพิการ หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ย้ำตร.ทำคดีตรงไปตรงมา

สน.วัดพระยาไกร-เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 พ.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวถึงกรณีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์แสดงความคิดเห็นคดีชายพิการถูกรุมทำร้ายเข้าข่ายความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนพร้อมยกฎีกามาเปรียบเทียบว่า คดีนี้มีทั้งผู้ที่รู้เหตุการณ์แต่ไม่รู้กฎหมาย และมีผู้ที่รู้กฎหมาย แต่ไม่รู้เหตุการณ์จริงทั้งหมด บางส่วนก็ไม่รู้กฎหมายและไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งมีหลายคนที่ไปแสดงความคิดเห็นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง ตนไม่อยากพูดถึงเพราะตอบคำถามและชี้แจงเหตุผลไปหมดแล้วถึงเหตุที่ไม่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกับวัยรุ่นทั้ง 7 คน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่รองปลัดฯคนดังกล่าว อ้างฎีกาโพสต์ว่า "ดังนั้น แนวฎีกาจึงสำคัญเพราะจะบอกเราว่า ศาลตีความกฎหมายไว้อย่างไร มาดูกันว่า กรณีที่นอกจากการวางแผนแล้วนั้น ศาลตีความเรื่องระยะเวลาอย่างไร คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 218/2527"...หลังจากทะเลาะกันผ่านไป 10 นาทีจำเลยกลับมาใช้ปืนยิงผู้เสียหายถือว่าระยะเวลา 10 นาที เพียงพอที่จะทำให้จำเลยคิดและมีสติได้ จึงถือว่าเป็นการไตร่ตรอง..."คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 834/2520"...หลังจากทะเลาะกันผ่านไป 10 นาที จำเลยกลับมาพร้อมปืนมายิงผู้เสียหายถือว่า จำเลย มีโอกาสไตร่ตรองคิดทบทวนดีแล้ว ในช่วงเวลา 10 นาที ดังกล่าว จึงถือว่าไตร่ตรองไว้ก่อน..."คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1248/2509"...จำเลยเกิดโทสะไปแล้ว ความคิดต่อจากนั้น จึงเป็นเรื่องของการคิดไตร่ตรองจะมาอ้างว่ายังมีโทสะอยู่ไม่ได้..."คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2217/2556"...การที่มีเวลาคิดไตร่ตรอง ย่อมจะไม่ใช่เกิดเหตุปัจจุบันทันด่วน..." นั้น

"ศานิตย์" จ่อแจ้งจับ!คนโพสต์หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน
"คดีแก๊งลูกตร.รุมฆ่าชายพิการ"



พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า กรณีดังกล่าวต้องย้อนไปตั้งแต่ที่ฝ่ายผู้ตายและผู้ต้องหาทะเลาะกันและมีการท้าทายกัน ก่อนจะจบและแยกย้ายกันไป จากนั้นฝ่ายผู้ต้องหา ก็นั่งดื่มสุราต่อ ก่อนที่ 4 คนจะขึ้นห้องนอน ส่วนอีก 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันกลับบ้าน ซึ่งเป็นทางบังคับว่า ทางกลับบ้านนั้นต้องผ่านหน้าร้านของผู้ตาย โดยบังเอิญผู้ตายยืนอยู่หน้าร้าน พร้อมตะโกนด่าทอกัน ฝ่ายผู้ต้องหาก็บอกว่า ขอโทษไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่จบ กระทั่งโต้เถียงหนักขึ้น จนนำไปสู่การเกิดเหตุ ก่อนที่จะโทรศัพท์เรียกเพื่อนมาช่วย ดังนั้นจึงไม่ถือว่า เป็นการไตร่ตรอง เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ผู้ต้องหาก็บุกมาบ้านและมาทำร้ายผู้ตาย แต่เป็นเหตุการทะเลาะที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

ผมขอยืนยันว่า หากทางฝั่งผู้ตายรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถให้ทนายไปร้องต่อศาลได้โดยตรงหรือญาติผู้ตายสามารถ ขอเป็นโจทก์ร่วมในชั้นศาลได้เช่นกัน ทั้งนี้ผมอาจจะต้องพิจารณาบุคคลที่มาโพสต์แสดงความคิดเห็นคดีดังกล่าว โดยบางคนโพสต์แสดงความคิดเห็นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดหมิ่นเจ้าพนักงานหรือไม่ รรท.ผบช.น.กล่าว

logoline