svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"

16 พฤษภาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ร้อนนี้แล้งหนัก ยังไม่สายที่เราจะร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นไม้ เพื่อลดโลกร้อนออกเดินทางแต่เช้าจากบางบัวแวะไปทั่วเข้าปั้มตั้งสองหนแวะอยู่ได้ ว๊ายวายชักจะจนหมดค่าขนมไปแล้วหลายบาทเอย มาถึงปุ๊บ กินข้าวเสร็จปลูกต้นไม้ทั้งหญิงชายจับจอบเร่งขุดหลุมบางคนปลูก บางคนฝัง ร่วมชุมนุมค่ายอาสาศรีปทุม ร่วมใจเอย


บทกลอนเหล่านี้แม้จะไม่สัมผัสนอกและใน ถูกตามคำไทยมากนัก แต่ก็ฟังดูน่ารัก มีพลัง สนุกคึกคัก สร้างความสดใสและความร่าเริงอยู่ไม่น้อย เพราะมันถูกกลั่นกรองออกมาจากหัวใจและพลังของคนรุ่นใหม่ ร่วมใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคมของหนุ่มสาวทั้ง 2 กลุ่มแต่มีหัวใจเดียวกันจากนักศึกษา ชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท และ ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยศรีปทุม จำนวนกว่า 180 คน จัดกิจกรรมจิตอาสาเร่งฟื้นคืนผืนป่าขจัดปัญหาเพื่อลดภาวะโลกร้อน ในโครงการ "ปลูกป่าชุมชน" ให้กับโรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา และ ชุมชนบ้านกระทุ่มแพ้วอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดีในการช่วยกันปลูกฝังเยาวชนเป็นกระจกสะท้อนถึงการมีจิตสำนึกของความรักมากกว่าการทำลาย หากแต่คนเราต่างคนต่างอยู่ฉันใด โลกที่เราอาศัยเพียงชั่วคราวก็จะดับสูญไปฉันนั้น ถ้าเราไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน ยังไม่สายครับกับภาวะปัญหาของความร้อนที่เราทนได้ แต่เราทนเห็นป่าไม้ที่กำลังจะหมดไปจากโลกและของประเทศไทยที่เหลือน้อยไม่ได้... เรามาเริ่มลงมือทำในสิ่งดีๆ เพื่อโลกของเราไปพร้อมกับน้องๆนักศึกษาชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท และ ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยศรีปทุมกัน และลองมาฟังความรู้สึกของน้องๆที่มีหัวใจจิตอาสาและรักษ์โลก กันครับ 

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"


นายจักรพันธ์ เพชรพงศ์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการท่องเที่ยว  บอกว่า "ปีนี้ฤดูร้อน ร้อนจริงๆ ครับ พอรู้ว่าทางชมรมจะจัดกิจกรรมไปต่างจังหวัดเพื่อไปร่วมกันปลูกต้นไม้ ผมตัดสินใจไปเลยครับ เพราะที่ผ่านมาผมฟังข่าวมาเยอะเกี่ยวกับปัญหาของความร้อนส่วนใหญ่มาจากการทำลายธรรมชาติ ตัดไม้ทำลายป่า มีแต่คนทำลาย ไม่มีคนปลูก จึงเป็นปัญหาที่ส่งผลเห็นได้ชัดเลยคือ ความร้อนที่เรากำลังเผชิญและรับโทษของมันจากการที่มีคนเห็นแก่ตัวไปตัดมัน วันนี้เราปลูกต้นไม้ วันข้างหน้าต้นไม้ที่ผมปลูกเขาจะลดความร้อนลงอย่างแน่นอน มาร่วมกันปลูกต้นไม้นะครับ และคุณจะอยู่อย่างร่มเย็น " 
น.ส.ศุภาวรรณ สมบูรณ์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจบอกว่า "แม้จะเรียนคอมพิวเตอร์ เรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อนำไปสู่การสร้างที่เรียกว่าอนาคต ซึ่งผู้คนยุคดิจิทัลอาจลืมไปว่า แท้จริงแล้วคนเราต้องอยู่กับดิน อยู่กับน้ำ อยู่กับป่า แม้คุณจะไปไกลแค่ไหน สุดท้ายคุณก็ต้องอยู่กับความจริง คือ ธรรมชาติ วันนี้ธรรมชาติของเรากำลังที่จะประสบปัญหาเพราะมีแต่คนทำลาย ไม่มีคนช่วยกันสร้าง ฉะนั้นวันนี้พวกเราต่างมีใจเดียวกันคือ มาช่วยกันสร้างและปลูกต้นไม้เพื่อโลกและประเทศไทยของเราจะได้ร่มเย็นและไม่ร้อนกันค่ะ"

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"


น.ส.ศิริยา พราวจันทึก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการโรงแรม บอกว่า "การเรียนเพียงอย่างเดียวคงจะไม่พอ แต่ที่ ม.ศรีปทุม ได้สอนการเรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริงซึ่งนอกห้องเรียน เราจะสัมผัสในสิ่งที่เราสามารถที่จะเข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่นในสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ คือ การปลูกต้นไม้ การได้มีส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ทุกคนกำลังประสบอยู่ คือ ภาวะของความร้อนแน่นอนว่าต้นตอของความร้อนที่มันมากขึ้นทุกปีมาจากปัจจัยของอะไร คือการไปตัดไม้ทำลายป่าอันเป็นแหล่งธรรมชาติที่สามารถลดภาวะโลกร้อนได้ วันนี้การที่หนูได้ลงมือทำจริงๆ คือการปลูกต้นไม้มันมีคุณค่าสำหรับหนูมากค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้มันคือความจริงของการแก้ไขปัญหาของความร้อนได้ค่ะ"

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"



น.ส.ปิ่นมนัส วิรัติ คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสารธุรกิจ บอกว่า "ถึงแม้หนูจะมาทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ครั้งนี้แค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่หนูได้ทำมันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะมันสามารถที่จะนำพาหนูไปต่อยอดได้ในอนาคต ต่อยอดคืออะไร หนูได้ลงมือทำจริง หนูได้ลงพื้นที่จริง หนูได้เรียนรู้ถึงการแก้ไขปัญหาจริงๆ ในการช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างแน่นอนในอนาคต หวังว่าเราทุกคนจะช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคความร้อนได้ เพียงแค่เราช่วยกันปลูกต้นไม้กันเยอะๆนะคะ" 

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"


 น.ส.กฤตยา จันทาทิพย์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาธุรกิจเรือสำราญ บอกว่า"ชุมชนก็เหมือนการปลูกต้นไม้ ถ้าเรารู้จักใส่ใจ มั่นรดน้ำพรวนดิน ต้นไม้มันก็จะเจริญเติบโตและงอกงาม ชุมชนก็เช่นกัน หากชุมชุนจะแข็งแรงได้ คนในชุมชนก็ต้องร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้มีปัญหาก็จะสามารถผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้ หนูเชื่อว่าต้นไม้ที่เราปลูกในชุมชนบ้านกระทุ่มแพ้วแห่งนี้ มันจะเจริญเติบโตและเป็นต้นไม้ที่จะช่วยให้ลดภาวะโลกร้อนลงได้อย่างแน่นอน เพราะคนในชุมชนแห่งนี้มีความเป็นอยู่ที่ร่มรื่นอาศัยหลักของธรรมชาติด้วยการปลูกต้นไม้และมีความสามัคคีกันคะ " 

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"


แม้ภัยธรรมชาติจะร้อนแรงขึ้นทุกปีเพียงใด อุปสรรคและปัญหาก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไข หากแต่ว่าเราทุกคนร่วมใส่ใจและรับผิดชอบต่อสังคมกันคนละเล็กละน้อย เช่นเดียวกับพลังคนรุ่นใหม่จากน้องนักศึกษาทั้งสองกลุ่มนี้จะรั้วมหาวิทยาลัยศรีปทุม ทุกสิ่งอย่างก็จะหมดไปและจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนนะครับ

"แล้งหนัก ไม่สาย ..ปลูกต้นไม้.. ลดโลกร้อน"

logoline