ก่อนหน้านั้น ได้มีโอกาสติดตามไปกับคณะของโครงการศึกษาระบบนิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลที่ร่วมมือกับกองกำกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ค่ายพญาลิไท ชุดพิทักษ์ป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ ส่วนที่ 2 หรือป่าสิริกิติ์ ที่ตั้งฐานฯอยู่ในป่าฮาลาบาลา อ.เบตง จ.ยะลา เดินเท้าเพื่อสำรวจหาโพรงนกเงือกเพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมในช่วงฤดูการผสมพันธุ์
ซึ่งครั้งนั้นต้องผูกเปลกางเต้นท์ปักหลักกันอยู่กลางป่าถึง 3 คืนเต็มๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้ซึ่งได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ทำให้สามารถพบนกเงือกที่เข้าโพรงออกลูกเพิ่มขึ้นอีก 3 โพรง เป็นนกเงือกหัวแรด 2 โพรง และนกเงือกกรามช้าง 1 โพรง และเป็นที่น่ายินดี 1 ใน 2 โพรงนกเงือกหัวแรด คนพบโดย"ไผ่" ซึ่งเป็นโอรังอัสรีหรือเงาะป่าซาไกที่อาศัยอยู่ในผืนป่าดังกล่าว
ปัจจุบันโอรังอัสรีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานผู้ช่วยโครงการฯ สำรวจโพรงนกเงือกที่ป่าฮาลาบาลาแห่งนี้ด้วย การดำรงชีวิตและเดินป่ายามหน้าแล้งท่ามกลางความร้อนอบอ้าวของอากาศไม่ได้สร้างความท้อถอยให้แก่พวกเขาแต่อย่างใด และโชคดีที่ได้อาศัยแหล่งน้ำใสบริสุทธิ์จากคลองซาไกที่ยังคงไหลมาจากป่าต้นน้ำที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ทั้งนอนแช่คลายร้อน ดื่มกินและปรุงอาหาร
เมื่อเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและอุปกรณ์ ทีมงานสำรวจฯก็เดินป่าปีนเขาโดยมีชาวบ้านที่มีความชำนาญพื้นที่เป็นผู้นำทาง การสังเกตุต้นไม้ว่ามีนกเงือกเข้าโพรงหรือไม่ต้องอาศัยประสบการณ์เป็นอย่างอย่างมาก บางครั้งต้องเดินตามเส้นทางที่นกเงือกบินผ่าน เพราะนกเงือกเวลาที่บินจะได้ยิงเสียงลมที่กระพืออยู่ใต้ปีก หากโชคดีจะเจอต้นไม้ที่เป็นแหล่งอาหารที่นกป่าหลายชนิดมารวมหมู่กันกินผลไม้สุก หรือไม่ก็อาจพบโพรงที่อยู่ไม่ไกล หากโพรงไหนมีนกเงือกตัวเมียเข้าไปออกลูกอยู่ภายในจะสังเกตุเห็นอุจาระหรือของเสียที่แม่และลูกนกถ่ายลงมาตกอยู่ที่พื้นหรือโคนต้น ซึ่งจะต้องจดบันทึกข้อมูลชนิดของผลไม้ที่นกกินเข้าไป
การบันทึกข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะพิกัดที่พบโพรงนกเงือกเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการติดตามครั้งต่อไป ระยะความถี่ของพ่อนกเงือกที่นำอาหารมาป้อนวันละกี่ครั้ง ชนิดอาหารเป็นผลไม้ เมล็ดพันธุ์ไม้ หรือสัตว์ชนิดใด ต้องจดอย่างละเอียด โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ เพราะต่อไปจะเป็นฐานข้อมูลในการสร้างแปลงพันธุ์ไม้เพิ่มขึ้นในป่าเพื่อเป็นอาหารของนกเงือกและนกป่าชนิดอื่นที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ ซึ่งผู้รับผิดชอบทำแปลงไม้เพื่มคือเจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดน
ในแต่ละปีตามวงจรชีวิตของนกเงือกช่วงนี้ ตัวเมียเข้าโพรงขังตัวอยู่ภายในเพื่อออกฟักใข่ออกลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่พ่อนกเงือกที่คอยหาอาหารมาป้อนให้เป็นระยะๆ ทั้งเมล็ดพันธุ์ไม้ป่าและสัตว์ตัวเล็กๆ จนกว่าลูกนกจะโตได้สักระยะ จากนั้นแม่นกจะเจาะปากโพรงออกมา เพื่อช่วยพ่อนกหาอาหารมาป้อนให้ลูกที่ปิดปากโพรงเหลืออยู่แค่ตัวเดียว เพราะช่วงนั้นลูกนกต้องการอาหารมากเพื่อบำรุงร่างกาย จนกว่าจะเติบโตแข็งแร็งได้ที่ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน จะเจาะปากโพรงออกมาเอง เป็นนกเงือกรุ่นใหม่ประดับผืนป่าภาคใต้ต่อไป
ช่วงนี้จึงเป็นระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ และความเป็นความตายของนกเงือก เป็นช่วงเวลาที่นักล่าลูกนกและแม่นกออกทำงาน เพราะขณะที่อยู่ภายในโพรงมันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย และ หากพ่อนกถูกฆ่านั่นหมายถึงอีกสองชีวิตที่อยู่ในโพรงจะต้องดับสูญไปด้วยเพราะอดตาย
นับเป็นความโชคดีของนกเงือกที่อาศัยอยู่ในป่าฮาลาบาลาแห่งนี้ ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระกลางผืนป่ากว้าง ยากที่นักล่าจะเข้ามาเพราะเป็นป่าปิด อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระชายแดนที่ 445 ซึ่งตั้งฐานฯเฝ้าระวังอยู่ภายใน เสมือนคนเฝ้าประตูป่า
ต่างจากนกเงือกที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาบูโด ทุกปีจะได้รับข่าวเศร้า ลูกนกถูกพรากไปจากพ่อแม่ขณะอยู่ในโพรง หรือไม่พ่อแม่นกถูกฆ่า นี่เป็นโศกนาฏกรรมกลางผืนป่าที่เกิดขึ้นจริงๆจากน้ำมือของมนุษย์ ผู้ที่ยกย่องและนิยามเองว่านกเงือกเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบรูณ์ของผืนป่า แต่สุดท้ายมนุษย์ได้กลายเป็นผู้ทำลายเสียเอง
*หมายเหตุ ภาพถ่ายทั้งหมดบันทึกที่ป่าฮาลาบาลา อ.เบตง จ.ยะลา