บทเพลง บ่กล้ากินข้าวบ้านเจ้าของ ถูกนำมาขับร้องในเวทีเสวนา กระบวนการยุติธรรมสิทธชุมชน กับนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน โดยชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ จากเหมืองทองจังหวัดเลย ที่ไม่กล้ากินข้าวที่ปลูกเอง เพราะกลัวสารพิษ
ที่ผ่านในระยะเวลาเกือบ 10 ปี ชาวบ้านถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญาหลายสิบคดี ส่วนมากเป็นคดีบุกรุก และหมิ่นประมาท
เช่นเดียวกับชาวบ้านจากเหมืองทองพิจิตร ที่ถูกฟ้องในข้อหาเดียวกัน
ลักษณะที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านที่เป็นนักต่อสู้เพื่อ สิทธิชุมชนเหล่านี้ เรียกว่า SLAPP คือการตบปากให้หยุดพูด ในทางกฎหมายก็คือ การแกล้งฟ้อง เพื่อตัดปัญหาการต่อต้าน
ผลกระทบจาก การแกล้งฟ้อง ทำให้เกิดความหวาดกลัว และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสู้คดี
ดร.ดล บุนนาค ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเด็กและเยาวชน จังหวัดกาฬสิน บอกว่าการฟ้องเป็นสิทธิของทุกฝ่าย เมื่อต้องกลายเป็นผู้ถูกฟ้อง ให้ศึกษาหาความรู้ทางกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีแต่ชาวบ้านผู้เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชน ยังไม่ไว้ใจในการกระบวนยุติธรรม ซึ่งมีต้นน้ำ จากตำรวจ ก่อนถึงศาล ขณะที่ในคดีสิ่งแวดล้อม ศาลยังใช้ระบบการกล่าวหา โดยปัจจุบันมีการร่างวิธิพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม โดยใช้ระบบไต่สวน แต่ยังไม่ประกาศใช้เครือข่ายองค์กรเพื่อสิทธิมนุษย์เรียกร้องรัฐให้มีกฎหมายป้องกันการถูกแกล้งฟ้อง