นายพจน์ ทับประทุม หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พันท้ายนรสิงห์ ฐานะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เปิดเผยผลการดำเนินการปฏิบัติงานในการจับตัวเงินตัวทอง (ตัวเหี้ย) ตามโครงการเพื่อควบคุมการขยายพันธุ์ และลดการสร้างความเดือดร้อนชาวบ้านและความเสียหายให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ว่า มีพื้นที่รับผิดชอบด้วยกัน 2 จังหวัดระหว่างสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งนอกจากจับลิงแสมแล้ว ยังมีแผนจับตัวเงินตัวทอง โดยเริ่มมีแผนงานมาตั้งแต่ปี 2550 ถึงปีงบประมาณ 2559 ทั้งนี้ทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ได้ดูแลทั้ง 2 พื้นที่มาตั้งแต่เดือน ม.ค. เม.ย.2559 ขณะนี้ได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว
ปรากฎว่าในส่วนของ จ.สมุทรสาคร สามารถจับตัวเงินตัวทองหรือเหี้ย ได้ทั้งหมด 375 ตัว ขณะที่สมุทรสงคราม จับได้กว่า 500 ตัว เพื่อนำไปปล่อยในเขตที่มีพื้นที่เหมาะสมและอยู่ห่างไกลจากเขตชุมชนของชาวบ้านซึ่งห่างไกลพื้นที่ทำเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เนื่องจากมักชอบแอบกินสัตว์น้ำของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ อาทิ กุ้ง หอย ปลาและปู ตามที่ได้มีร้องเรียนกันเข้ามา ส่งผลให้ขณะนี้ปริมาณลดลดลงเบาบาง
ล่าสุดยังพอมีแจ้งมาบ้างขอมาบ้างขอให้ไปจับตัวเงินตัวทองประมาณ 1-2 ตัว ทางเจ้าหน้าที่ค่อยออกไปดำเนินการ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ช่วยสนับสนุนงบประมาณบ้างเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน ซึ่งเฉลี่ยการดำเนินงานออกจับ 1 ตัว มีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 300 บาทขึ้นไป อาทิ จะเสียเรื่องค่าซื้อปลามาทำอาหารใช้ดักล่อจับ ก่อนนำไปปล่อยมีทั้งนอกพื้นที่และท้องถิ่นที่เหมาะสม สำหรับอุปกรณ์ใช้จับนั้นเป็นเครื่องมือที่หาได้ง่าย และจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ประดิษฐ์บ่วงขึ้นมาเองก็ได้
นายพจน์ ระบุว่า สำหรับสถานการณ์ตัวเงินตัวทองในพื้นที่สมุทรสาครและจังหวัดสมุทรสงครามต้องยอมรับว่า เป็นเขตที่เพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว และจากขยายพันธ์วางไข่ที่มีปริมาณค่อนข้างมากและฝังกลบใต้ดินได้อย่างมิดชิดทำให้สามารถหลุดรอดการจับกุมไปได้ อย่างไรก็ตามสัตว์ชนิดนี้ใน 2 จังหวัดถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องอาหารของตัวเงินตัวทองมากเป็นพิเศษ และการเจริญพันธุ์ก็เติบโตได้อย่างรวดเร็ว จึงเข้าไปกัดกินสัตว์น้ำเพาะเลี้ยงและสัตว์เลี้ยงชายฝั่งที่เกษตรกรเพาะเลี้ยงไว้เป็นเหตุเกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ ซึ่งปี 2559 เราสามารถจับตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่ที่สุด 2559 มีน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม และยาวถึง 270 เซนติเมตร
ในปีงบประมาณ 2560 จะได้งบประมาณ 4 แสนบาท จากทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) สมุทรสาคร จะช่วยสนับสนุนเพื่อมาใช้ในงานดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ทางเขตห้ามหน่วยคุ้มครองล่าสัตว์ป่าและพันธ์พืช ต.พันท้ายฯ คาดว่าสามารถจับได้ไม่ต่ำกว่า 400 ตัว โดยเน้นเขตพื้นที่ติดชายทะเลและมีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งที่มีถึง 8 ตำบล ประกอบด้วย ต.พันท้ายนรสิงห์, โคกขาม, บางหญ้าแพรก, บางกระเจ้า, บ้านบ่อ, บางโทรัด, กาหลง และนาโคก