"นักวิชาการ" เผย ข้อมูลพบเด็ก 7 ขวบเริ่มเล่นการพนัน

นักวิชาการได้ออกมาเปิดเผยผลสำรวจด้านการพนัน พบว่ามีเด็กอายุเพียงแค่ 7 ขวบเริ่มเล่นการพนัน ซึ่งทางแพทย์ก็ออกมาชี้ค่ะว่า หากเด็กได้เล่นพนันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสมองคิดแต่อยากกิน แต่ไปปิดกั้นสมองส่วนคิดวิจารณญาณ
ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ได้จัดประชุมวิชาการ เรื่องการพนันในยุคเปลี่ยนผ่าน จัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย? รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ บอกว่า จากผลการศึกษาสถานการณ์พฤติกรรม และผลกระทบ การพนันในประเทศไทยปี 2558 สำรวจประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป สุ่มตัวอย่าง 26 จังหวัด จำนวน 7,018 ตัวอย่าง พบว่า กลุ่มตัวอย่างอายุน้อยที่สุดเริ่มเล่นการพนันเพียงแค่ 7 ขวบ ขณะที่กว่าร้อยละ 60 เริ่มเล่นการพนันอายุไม่เกิน 20 ปี และประเภทการพนันที่เล่นเป็นครั้งแรกและมากที่สุดคือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ตามมาด้วยหวยใต้ดิน

ทั้งนี้ ภาพรวมการเล่นพนันในรอบ 12เดือนทีผ่านมา จำแนกตามภาค ปรากฎว่า ภาคอีสานมากที่สุด รองลงมา ภาคกลางกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามด้วยภาคเหนือ ภาคใต้
โดยที่ประเภทการพนัน ที่เล่นพนัน อันดับ1คือสลากกินแบ่งรัฐบาล รองลงมาหวยใต้ดิน และพนันทายผลฟุตบอล โดยกลุ่มที่เล่นการพนัน ให้เหตุผลดังนี้คือ เป็นการเสี่ยงโชคร้อยละ 90เพื่อความตื่นเต้นเพลิดเพลินร้อยละ 30 และชอบเป็นการส่วนตัวร้อยละ 12.

ด้านแพทย์จากกรมสัขภาพจิต นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ บอกว่า การติดการพนันของเด็ก มักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม พฤติกรรมเสพติด แฝงเร้น พ่อแม่ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหา ส่งผลให้ปล่อยปละละเลย มีการเข้ารับการบำบัดน้อยมาก เมื่อเทียบกับเด็กติดเหล้าและยา

วัยรุ่นเด็กเล่นการพนันส่วนใหญ่ไม่เหมือนผู้ใหญ่ เด็กเล่นเพราะคิดว่าสนุก เช่นพนันกับกีฬา ต้องให้เด็กได้เรียนรู้ว่าเข้าใจผิด เพราะการพนัน จะไปกระตุ้นสมองส่วนอยาก มากกว่าสมองส่วนคิด วิจารณญาณ เมื่อสมองส่วนอยากถูกกระตุ้นเรื่อยๆ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง การทำงานของสมองและประสาทสมองส่วนอยากควบคุมการคิดมีแต่ อยากเล่น ซึ่งเด็กต้องเรียนรู้เข้าใจ ไม่ใช่สนุก แต่ต้องตระหนักรู้ว่ามันเปลี่ยนแปลงสมองได้
นักวิชาการก็ได้เสนอกำหนดให้ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ มีเจ้าภาพแก้ปัญหา