ร้านปังหอมเปิดวันแรก ออเดอร์แน่น-แทบทำไม่ทัน หลานพ้อขาดผู้ช่วยฝีมือดี

จากกรณีแก๊งวัยรุ่น 6 คน รุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ชายขาพิการอาชีพขายขนมปังที่ร้านปังหอม จนเสียชีวิตที่ ถ.โชคชัย4 แยก 69 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีสาววัยรุ่นอีก 2 คน อยู่ในเหตุการณ์ และหนึ่งในสองสาววัยรุ่นคือ น.ส.ณัฐณิชา ฤทธิ์ล้ำเลิศ อายุ 19 ปี แฟนสาวของ นายมนต์มนัส แสงโพธิ์ ผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและนำตัวฝากขังผัดแรกไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วย นางทองคำ ศรีจันทร์ อายุ 64 ปี มารดาผู้ตายและนายเมธัส ผลประเสริฐ หลายชายของผู้ตาย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มแก่ น.ส.ณัฐณิชา ในข้อหาข่มขู่
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร้านขนมปัง ชื่อร้านปังหอม ได้เปิดร้านเป็นวันแรก นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งวันนี้(10 พ.ค.) มีลูกค้ารีบโทรสั่งออเดอร์ขนมปังตั้งแต่เช้า เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากข่าวสารของสื่อต่างๆ ก็พยายามถามไถ่วันเปิดร้าน เพราะต้องการช่วยอุดหนุน
นางทิพาภรณ์ พุมมาลา ครูสอนภาษาไทย โรงเรียนราชวินิตบางเขน หนึ่งในลูกค้า กล่าวว่า รู้สึกหดหู่ที่สุดกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยปกติ นายสมเกียรติ จะเป็นคนที่ขยันมาก ขยันทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัว เป็นคนเทคแคร์ลูกค้าทุกคนดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เคยคิดว่าร่างกายที่พิการจะเป็นอุปสรรคในการทำงาน วันนี้เมื่อรู้ว่าร้านเปิดแล้วจึงได้รีบมาสั่งขนมปังตั้งแต่เช้า เพื่อต้องการช่วยอุดหนุนคนดี ขยันทำมาหากิน และจะได้มีเงินไปช่วยลูก 2 คน ของ นายสมเกียรติ ที่ต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ
ด้านนายเมธัส บอกว่า ตอนนี้ยังรู้สึกใจหาย โดยที่่วันนี้เปิดร้าน แต่ไม่มีแม้เงาของน้าชายที่สู้ชีวิตมาด้วยกัน ที่ผ่านมามีเสียงหัวเราะที่เคยหยอกเล่นกันทุกเช้า ภาพเหล่านั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำ ซึ่งตอนที่น้ายังมีชีวิตอยู่เคยคุยกันว่าอนาคตจะเป็นเจ้าของร้านนี้ด้วยกัน เพราะน้าก็รักการทำขนมไม่แพ้ตน คอยดูแลลูกค้าอย่างดีไม่เคยขาด ช่วยเหลือทุกอย่างในร้านไม่เคยขาดตกบกพร่อง และทุกๆวันเสาร์น้าจะไปหาลูกทั้งสองที่ต่างจังหวัดโดยตนจะเป็นคนพาไป
"จากนี้ไปเด็กทั้งสองคงต้องรอพ่อไปตลอด รู้สึกสงสารน้องที่เขาต้องสูญเสียพ่อ ต่อไปผมก็คงตั้งใจทำงาน หาเลี้ยงน้อง เลี้ยงยาย และครอบครัว ยังคงต้องสู้ชีวิตเหมือนที่น้าเขาสู้มาตลอด และขอบคุณลูกค้าที่มาถามไถ่ตั้งแต่เช้าตอนเปิดร้าน โดยก่อนหน้านี้ลูกค้าก็โทรมาถามไถ่ตลอด พอทราบว่าเปิดร้านแล้วก็มีออเดอร์มาเยอะแทบทำไม่ทัน เพราะขาดลูกมือคู่ใจและฝีมือดีอย่างน้าสมเกียรติแบบไม่มีวันหวนคืนอีกแล้ว" นายเมธัส กล่าวน้ำตาคลอ