ทองคำ ศรีจันทร์ แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จะรอให้คดีเสร็จก่อนถึงจะเผาศพลูกชาย ขณะนี้ศพลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับหลานๆ ทั้งสองคนซึ่งเป็นลูกของลูกชาย ไปอยู่กับแม่ที่นครปฐม
ได้พบได้คุยกับลูกก่อนถูกทำร้ายเพียง 1 วัน ก่อนเกิดเหตุ คือวันที่ 30 เมษายน ดีใจที่ลูกโทรศัพท์มาหา แล้วก็เตรียมอาหารไว้ให้ ไม่คิดว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายระหว่างแม่กับลูก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูก หลังกินอาหารด้วยกันลูกก็กลับกรุงเทพฯ ก่อนลูกกลับบอกว่า ถ้าวันไหนว่างก็ให้ไปรับหลานด้วย ก็บอกว่าไม่สบาย เส้นเลือดฝอยตาแตก จึงไม่ได้ไปรับ
สอนลูกสอนหลานอยู่เสมอว่า ให้เป็นคนดี วันเกิดเหตุหลานชายโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกชายโดนแทง ตอนนั้นแทบช็อก ก็พยายามทำใจ เพราะอยู่ในห้องไอซียู ก็คงไม่รอด จากนั้นเย็นวันที่ 1 พฤษภาคม ก็ไปที่โรงพยาบาล เห็นสภาพลูกแล้วแทบจะทำใจไม่ได้ ลูกนอนตายตาไม่หลบ ต้องเอื้อมมือปิดตาให้ลูกจากที่ได้ไปที่เกิดเหตุหน้าร้านขนมปัง เห็นคราบเลือด ที่รถของหลานก็มีคราบเลือดติดอยู่
จากที่เห็นคลิปเหตุการณ์จากข่าวทีวีแล้ว คิดว่า ทำไมสังคมถึงทารุณกับคนพิการขนาดนี้ คนพิการไม่มีทางสู้ ขนาดวิ่งหนีแล้วยังถูกรุมทำร้ายทุบตี ถูกฟันและแทง ซึ่งไม่ควรจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ต้องขอความเห็นใจจากท่านผู้ใหญ่ด้วย ในช่วงนาทีสุดท้ายของชีวิต เชื่อว่า ลูกจะคิดถึงแม่ ก่อนลูกชายจะเข้ามาทำงานที่ร้านขนมปังกับหลานชายนั้น ลูกชายทำงานรับจ้าง แม้แต่งานก่อสร้างก็ทำ รับจ้างขุดดินก็ทำแม้ว่าขาจะพิการก็ตาม หลานสองคน คนโตกำลังจะเข้า ม.1 คนเล็กเรียนอยู่ ป.4 ซึ่งคนเล็กเป็นโรคเลือดจาง
อนันต์ชัย ไชยเดช พยานผู้เห็นเหตุการณ์ และทนายความ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีมากกว่า 7 คน เชื่อว่ายังไม่หมด น่าจะมีคนที่ 8 ซึ่งเป็นคนที่พา น.ส.เกมส์ ไปที่โรงพยาบาล เมื่อไปและทราบว่า นายสมเกียรติเสียชีวิตแล้ว น.ส.เกมส์ก็พูดจาในทำนองสมน้ำหน้า และยังข่มขู่ญาติผู้ตาย ซึ่งคนที่ 8 น่าจะเกี่ยวข้องในส่วนนี้ จึงขอให้พนักงานสอบสวนในประเด็นนี้ด้วย หากพบว่าเป็นการพากันไปเพื่อเยาะเย้ย ถากถาง หรือข่มขู่ ถือว่าเข้าข่ายร่วมกันข่มขู่ด้วย ถึงแม้จะไม่ได้มีส่วนในการทำร้ายสมเกียรติ
โดยส่วนตัวเห็นว่า พฤติกรรมของเยาวชนกลุ่มนี้ ไม่มีความสำนึกในสิ่งที่ตนกระทำ ไม่ละอายต่อบาปในสิ่งที่ตัวเองกระทำ เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นความสุขของตัวเอง
สำหรับพยานหลักฐานนอกจากที่มีอยู่เดิมแล้ว คิดว่าพยาบาลและบุรุษพยาบาลที่อยู่โรงพยาบาลคงจะทราบเรื่องนี้ดี และเชื่อว่า ได้ยินเสียงพูด เสียงเอะอะโวยวายของกลุ่มผู้ก่อเหตุ อย่างชัดเจน น่าจะเป็นพยานสำคัญในการเอาผิดกับบุคคลที่ 8
ต้องการให้บุคคลที่กระทำผิดโดยไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาปได้รับโทษทั้งทางสังคม และทางคดีอาญา เชื่อว่า ถ้ามีการสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมมั่นใจว่าจะเอาผิดบุคคลที่ 8 ได้
ก่อนหน้านี้มีการแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 7 คน คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น ขณะนี้ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหามีระยะเวลาในการคิด เตรียมอาวุธที่นำมาทำร้าย มีการโทรศัพท์ตามพรรคพวกมาสมทบ ไม่ใช่เป็นเหตุซึ่งหน้า โดยเฉพาะวัยรุ่น 2 คน ที่ตามมาทีหลังพร้อมกับนำอาวุธมาด้วย การฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กรณีจะได้รับโทษคือประหารชีวิต
เมธัส ผลประเสริฐ หลานชายของผู้เสียชีวิตและผู้อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า กลับมาเปิดร้านขนมปังอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม เนื่องจากลูกค้าเรียกร้อง สอบถามกันมาว่า จะขายต่อหรือไม่ แต่ก็ไม่ทำขายมาก เน้นส่งลูกค้าขาประจำ
หลังจากเกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแวะเวียนมาดูแล นำตู้แดงมาติดหน้าร้าน รวมทั้งกล้องวงจรปิดให้ด้วย หน้าที่หลักของน้าสมเกียรติในร้านก็คือ ส่งขนมปัง ดูแลซ่อมบำรุงเครื่องจักร อบขนม และยังช่วยงานอีกหลายอย่างภายในร้าน