ซาอุดิอาระเบีย ประกาศแผนลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน

คณะรัฐมนตรีของซาอุดิอาระเบียมีมติเมื่อวันจันทร์ เห็นชอบประกาศแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจระยะยาวที่ใช้ชื่อว่า "วิสัยทัศน์ 2030" ซึ่งตั้งเป้าลดการพึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันภายในอีก 14 ปีข้างหน้า

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รองมกุฎราชการ เปิดเผยว่า ภายใต้แผนการนี้ซาอุดิอาระเบีย ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่มาจากน้ำมันที่ระดับ 43,600 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วเป็น 160,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2020 และ 267,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 และหัวใจสำคัญของแผน คือ จัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐ หรือ PIFที่จะเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยเงินทุน 2 ล้านล้านดอลาร์ โดยจะระดมเงินทุนจากการขายหุ้นไม่ถึง 5% ในซาอุดิ อารัมโก้ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย กองทุนนี้จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ
แผนปฏิรูปของซาอุดิอาระเบียได้รับการขานรับด้วยความยินดีจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ที่เพิ่งแนะนำให้ผู้ส่งออกน้ำมันปรับตัวรับมือกับราคาน้ำมันตกต่ำ

เศรษฐกิจซาอุดิอาระเบียได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตกต่ำตลอด 1 ปีที่ผ่านมาทำให้ขาดดุลงบประมาณสูงถึง 98,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วและจะขาดดุล 87,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

นอกจากนี้แผน "วิสัยทัศน์ 2030" จะส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน สร้างแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพสูง รวมถึงผ่อนปรนข้อบังคับการออกวีซ่า ออกกรีนการ์ด และให้สิทธิซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ชาวต่างชาติตั้งถิ่นฐานได้ระยะยาวเพื่อเพิ่มแรงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันยังตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในตลาดแรงงานจาก 22% เป็น 30%