svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ครอบครัวเหยื่อรถเบนซ์ชนฟอร์ด เตรียมหลักฐานยื่นตร. เอาผิด “เจนภพ” สถานหนัก

31 มีนาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันที่ 21 มีนาคม 2559 เวลา 10.00 น. นางนงครัตน์ รุ่งแสง น้องสาวของ นายกฤษณะ หรือโต้ง ถาวร อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถเบนซ์ ซีแอลเอส สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพ พุ่งชนรถฟอร์ด เฟียสต้า สีเทาดำ ทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพ จนไฟลุกท่วม เป็นเหตุให้ทั้ง นายกฤษณะ กับน.ส.ธันฐภัทร์ หรือเบนซ์ ฮ้อแสงชัย เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนพหลโยธินขาออกช่วงหลักกิโลเมตรที่ 52-53 ใต้ต่างระดับบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา



นางนงครัตน์เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางครอบครัวมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อร้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหา สถานหนัก โดยตั้งข้อสังเกตุว่าพฤติกรรมการขับรถลักษณะนี้น่าจะมีข้อหาที่มากกว่าข้อหาประมาทหรือไม่ อีกทั้งทางครอบครัวมองว่าต้องการให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานต่อสังคม

ถ้ามองดูข้อหา จริงๆ มันก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ทางครอบครัวไม่อยากให้จบอยู่ที่ข้อหาประมาท ตอนนี้ทางครอบครัวกำลังรวบรวมหลักฐาน ยื่นคำร้องต่อพนักงานสอบสวนให้พิจารณาแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาให้สูงกว่านี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เเต่การรวบรวมพยานหลักฐานครั้งนี้ ครอบครัวจำเป็นต้องขอความร่วมมือจาก สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคาดหวังว่าตำรวจจะมีความเป็นกลาง นางนงรัตน์ กล่าว

นางนงครัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติ่มว่า หลังจากเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2559 ทางครอบครัวของคู่กรณีได้เดินทางมาร่วมพิธีศพและกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบเพียงครั้งเดียว แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาจนถึงวันนี้ ทางครอบครัวไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการเพียงแค่ความรับผิดชอบและความสำนึกในความผิด ซึ่งยืนยันว่าจะ ดำเนิคดีให้ถึงที่สุด

ครอบครัวเหยื่อรถเบนซ์ชนฟอร์ด เตรียมหลักฐานยื่นตร.
เอาผิด “เจนภพ” สถานหนัก

คู่กรณีมาขอขามาศพ คืนที่ 2 ก็มีการมาแสดงความเสียใจ แต่ตอนนั้นยังไม่มีคลิปรถเบนซ์ชนรถฟอร์ดออกมา คู่กรณีพูดว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่า ใครผิด อาจจะประมาทร่วมก็ได้ ทางครอบครัวยังไม่ได้มีการเจรจาเรื่องค่าเยียวยา เราไม่ได้ต้องการเงิน เราขอเพียงแค่ความรับผิดชอบ ความสำนึก เพราะครอบครัวของเราเป็นผู้สูญเสีย เราเสียความรู้สึกว่าทำไม วันนั้นจึง มีการกล่าวโทษคนเสียชีวิต ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการแสดงเสียใจ และไม่ได้ติดต่อมาเลย นางนงรัตน์ กล่าว

นอกจากนั้น นางนงครัตน์ ยังแสดงความเห็นการทำงานของตำรวจ ว่า การทำงานของตำรวจชุดใหม่ซึ่งมีการเปลี่ยน เนื่องจากตำรวจชุดเดิมทำงานล้าช้า ถือว่า ค่อนข้างตรงไปตรงมา มีการรายงานความคืบหน้าของคดีให้ครอบครัวผู้สูญเสีย ทั้ง 2 ครอบครัว ทราบอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานร่วมกับทางครอบครัวเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ครอบครัวรู้สึกเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง

ครอบครัวเหยื่อรถเบนซ์ชนฟอร์ด เตรียมหลักฐานยื่นตร.
เอาผิด “เจนภพ” สถานหนัก

ตำรวจชุดเก่าอย่างที่ทราบ อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ตำรวจชุดใหม่ที่เข้ามาทำคดี เป็นชุดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา มีการรายงานคืบหน้าคดีตลอด ทางครอบครัวเข้าใจว่า ชุดเดิมมีการทำผิดพลาด ทำให้พยานหลายคนไม่กล้าส่งหลักฐานไปให้โดยตรง จึงมีการส่งมาที่ครอบครัวผู้สูญเสีย จึงทำให้ขณะนี้ครอบครัวมีการทำงานร่วมกันกับตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก ทางครอบครัวก็เชื่อใจในระดับหนึ่ง นางนงรัตน์ กล่าว

นางนงครัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียทั้ง 2 ครอบครัว ดีขึ้น เพราะสังคมทำให้รับรู้ว่า ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง ทำให้ครอบครัวมีกำลังอย่างมากและมีความหวังว่าจะต่อสู้จนทำให้คดีนี้ป็นบรรทัดฐานของสังคมให้ได้

ครอบครัวไม่ได้คาดหวังว่าหลังเกิดเหตุจะมีหลายฝ่ายให้กำลังใจถึงขนาดนี้ ทั้งพยานที่เข้ามากว่า 100 คน แม้รู้ว่าเสี่ยงกับคดีที่เกิดขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจน แต่ก็ยังเข้ามาช่วยเหลือให้ข้อมูล ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกำลังใจจากทุกสื่อ ครอบครัวของเราอยากให้ตำรวจทุ่มเทเพื่อให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานกับสังคมร่วมกัน

ครอบครัวเหยื่อรถเบนซ์ชนฟอร์ด เตรียมหลักฐานยื่นตร.
เอาผิด “เจนภพ” สถานหนัก


นอกจากนี้ยัง ฝากบอกถึง ตำรวจชุดเดิมที่ทำคดีก่อนหน้านี้ว่า อย่าละเลยการทำทุกๆคดีที่เกิดขึ้น เเละให้ทำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ส่วนตำรวจชุดใหม่ครอบครัวต้องขอขอบคุณ ที่ทุ่มเทการทำงานมาโดยตลอด ขณะที่คู่กรณีนั้น ครอบครัวขออโหสิให้ และให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

อยากฝากไปถึง ชุดเดิม ว่า อยากให้พิจารณาสิ่งที่ทำ ตอนนั้นอาจละเลยเพราะคิดว่าเป็นเพียงคดีจราจรทั่วไปหรือไม่ อยากให้เข้าใจหัวอกครอบครัวผู้สูญเสีย เพราะไม่ใช่แค่ภาคราชการที่จะตรวจสอบการทำงาน แต่โซเซี่ยลมีเดียก็มีการตรวจสอบแล้ว สำหรับชุดใหม่ต้องขอบคุณ ที่ทุ่มเทการทำงาน เรารู้ว่ามีอุปสรรค แต่ถ้าเราร่วมมือกัน มันจะเปลี่ยนบรรทัดฐาน และตำรวจก็จะกู้ภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ส่วนคู่กรณี ทางครอบครัวขออโหสิให้ นางนงครัตน์ กล่าว

logoline