svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับแก๊งมาเลย์ ยึดยาไอซ์ 285 กก.

30 มีนาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) --- เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 มีนาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย ตัน ศรี คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. ดาโต๊ะ ม๊อคต้า ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงค์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 และนายณรงค์ รัตนานุกุล เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวมาเลเซีย โดยสามารถจับกุม นายชาง คิม ซุย (CHANG KIM SUI) อายุ 57 ปี ชาวมาเลเซีย นายลิม เยียน ฮุน (LIM YEAN HOOI) อายุ 37 ปี ชาวมาเลเซีย และ นายนับแสน หรือปรก พึ่งสุจริต อายุ 30 ปี ชาวจ.ยโสธร พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 285 กิโลกรัม

การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.50 น.วันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และตำรวจ บก.ปส.4 ได้จับกุมนายชาง คิม ซุย ชาวมาเลเซีย อายุ 59 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ที่ซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ยจำนวน 7 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 175 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ขณะขับรถยนต์เก๋งนิสสันเซฟิโร่ สีบรอนทองหมายเลขทะเบียน ณช 1994 กกรุงเทพมหานคร ต่อมาได้จับกุม นายลิม เยียน ฮุน ชาวมาเลเซีย อายุ 37 ปี พร้อมยาไอซ์ซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ย 4 กระสอบ รวมหนัก 107 กก.โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ขณะขับรถเก๋งยี่ห้อโปรตรอน สีขาว หมายเลขทะเบียน PTK3696 ประเทศมาเลเซีย รวม 2 ราย สามรถยึดของกลางยาไอซ์หนัก 282 กิโลกรัม ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ที่ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา


สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาอีกรายคือ นายนับแสน เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อยาไอซ์ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ถ.ราขพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 3 กิิโลกรัม โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และรถยนต์จำนวน 1 คัน รวมจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยึดของกลางยาไอซ์ได้ 285 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท แต่หากไปยังประเทศที่ 3 ราคาจะทวีคูณขึ้นไปอีกหลายสิบเท่าตัว


พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวมาเลเซีย สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับและประสานข้อมูลด้านการข่าวของความร่วมมือเจ้าหน้าที่ บช.ปส.และตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซียว่าจะมีการลักลอบขนยาไอซ์จำนวนมหาศาลจากประเทศไทยเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย โดยใช้เส้นทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับตำรวจมาเลเซียทำการสืบสวนและประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อมาได้กระจายกำลังไปตามจุดต่างๆ ตามแนวขายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าสังเกตุการณ์ จนพบรถยนต์ 2 คันตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับเข้ามาบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบกระสอบปุ๋ยจำนวนมากซุกอยู่ในรถ เมื่อเปิดกระสอบปุ๋ยออกเจ้าหน้าที่พบยาไอซ์จำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในกระสอบปุ๋ย เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางและทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย


ด้านพล.ต.ท.เรวัช กล่าวเสริมว่า สายลับที่ประสานงานกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย แจ้งมาว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนดังกล่าวจากประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออกของประเทศไทย แล้วจะผ่านด่านสะเดา เข้าไปยังประเทศมาเลเซียโดยจะใช้รถเก๋ง 2 คัน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดสังเกตรถยนต์ต้องสงสัย จนกระทั่งรถทั้งสองคันขับผ่านด่านสะเดาจึงขอตรวจค้นและพบยาเสพติดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเป็นคนละเครือข่ายกับที่บชก. จับกุมไปก่อนหน้านี้ ส่วนเหตุที่ทำเพราะยาเสพติดเหล่านี้หากหลุดรอดไปได้จากประเทศไทยแล้วขายในมาเลเซียมูลค่าจะเพิ่มมากขึ้น และระยะหลังเริ่มระบาดมากขึ้นทางการมาเลเซียจึงต้องประสานงานกับตำรวจไทยร่วมกันปราบปรามอย่างจริงจัง


พล.ต.ท.เรวัช กล่าวอีกว่า สำหรับยาไอซ์จำนวนดังกล่าวมีการผลิตและส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเครือข่ายเก่าที่หลบซ่อนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนทางภาคเหนือ ขบวนการขนส่งยาเสพติดมักจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบขนส่งหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อโดนเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ ก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆทั้งทางบก และทางน้ำ จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพ ซึ่งจากนี้จะได้ขยายผลการสืบสวนเร่งจับกุมตัวการใหญ่ต่อไป


ขณะที่นายดาโต๊ะ ม๊อคต้า กล่าวว่า ตนขออนุญาตพูดแทน ตัน ศรี คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย ในการทำงานที่ประสบความสำเร็จของประเทศไทยโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. ด้วยความร่วมมือกันจึงสามารถจับกุมยาเสพติด 2 คดี ยาไอซ์รวมทั้งสิ้น 285 กิโลกรัม เป็นคนมาเลเซีย 2 คน และคนไทย 1 คน ยืนยันว่าความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดและความร่วมมือกันของตำรวจทั้งสองประเทศจะมีการร่วมมือกันด้วยดีตลอดไป ไม่ว่าคดีใดก็ตามที่เป็นเรื่องระหว่างประเทศ


logoline