การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.50 น.วันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และตำรวจ บก.ปส.4 ได้จับกุมนายชาง คิม ซุย ชาวมาเลเซีย อายุ 59 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ที่ซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ยจำนวน 7 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 175 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ขณะขับรถยนต์เก๋งนิสสันเซฟิโร่ สีบรอนทองหมายเลขทะเบียน ณช 1994 กกรุงเทพมหานคร ต่อมาได้จับกุม นายลิม เยียน ฮุน ชาวมาเลเซีย อายุ 37 ปี พร้อมยาไอซ์ซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ย 4 กระสอบ รวมหนัก 107 กก.โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ขณะขับรถเก๋งยี่ห้อโปรตรอน สีขาว หมายเลขทะเบียน PTK3696 ประเทศมาเลเซีย รวม 2 ราย สามรถยึดของกลางยาไอซ์หนัก 282 กิโลกรัม ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ที่ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาอีกรายคือ นายนับแสน เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อยาไอซ์ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ถ.ราขพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 3 กิิโลกรัม โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และรถยนต์จำนวน 1 คัน รวมจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยึดของกลางยาไอซ์ได้ 285 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท แต่หากไปยังประเทศที่ 3 ราคาจะทวีคูณขึ้นไปอีกหลายสิบเท่าตัว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวมาเลเซีย สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับและประสานข้อมูลด้านการข่าวของความร่วมมือเจ้าหน้าที่ บช.ปส.และตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซียว่าจะมีการลักลอบขนยาไอซ์จำนวนมหาศาลจากประเทศไทยเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย โดยใช้เส้นทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับตำรวจมาเลเซียทำการสืบสวนและประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อมาได้กระจายกำลังไปตามจุดต่างๆ ตามแนวขายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าสังเกตุการณ์ จนพบรถยนต์ 2 คันตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับเข้ามาบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบกระสอบปุ๋ยจำนวนมากซุกอยู่ในรถ เมื่อเปิดกระสอบปุ๋ยออกเจ้าหน้าที่พบยาไอซ์จำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในกระสอบปุ๋ย เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางและทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย
ด้านพล.ต.ท.เรวัช กล่าวเสริมว่า สายลับที่ประสานงานกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย แจ้งมาว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนดังกล่าวจากประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออกของประเทศไทย แล้วจะผ่านด่านสะเดา เข้าไปยังประเทศมาเลเซียโดยจะใช้รถเก๋ง 2 คัน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดสังเกตรถยนต์ต้องสงสัย จนกระทั่งรถทั้งสองคันขับผ่านด่านสะเดาจึงขอตรวจค้นและพบยาเสพติดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเป็นคนละเครือข่ายกับที่บชก. จับกุมไปก่อนหน้านี้ ส่วนเหตุที่ทำเพราะยาเสพติดเหล่านี้หากหลุดรอดไปได้จากประเทศไทยแล้วขายในมาเลเซียมูลค่าจะเพิ่มมากขึ้น และระยะหลังเริ่มระบาดมากขึ้นทางการมาเลเซียจึงต้องประสานงานกับตำรวจไทยร่วมกันปราบปรามอย่างจริงจัง
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวอีกว่า สำหรับยาไอซ์จำนวนดังกล่าวมีการผลิตและส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเครือข่ายเก่าที่หลบซ่อนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนทางภาคเหนือ ขบวนการขนส่งยาเสพติดมักจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบขนส่งหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อโดนเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ ก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆทั้งทางบก และทางน้ำ จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพ ซึ่งจากนี้จะได้ขยายผลการสืบสวนเร่งจับกุมตัวการใหญ่ต่อไป
ขณะที่นายดาโต๊ะ ม๊อคต้า กล่าวว่า ตนขออนุญาตพูดแทน ตัน ศรี คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย ในการทำงานที่ประสบความสำเร็จของประเทศไทยโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. ด้วยความร่วมมือกันจึงสามารถจับกุมยาเสพติด 2 คดี ยาไอซ์รวมทั้งสิ้น 285 กิโลกรัม เป็นคนมาเลเซีย 2 คน และคนไทย 1 คน ยืนยันว่าความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดและความร่วมมือกันของตำรวจทั้งสองประเทศจะมีการร่วมมือกันด้วยดีตลอดไป ไม่ว่าคดีใดก็ตามที่เป็นเรื่องระหว่างประเทศ
- 3 แบงก์ล่ม จองหุ้น OR วันแรก เหตุแห่จองล้นหลาม-ซีอีโอ ปตท.แนะไม่ต้องรีบ
- "ทนายษิทรา" ถูกขู่ดำเนินคดี หากไม่กักตัว 14 วัน
- "ซูเปอร์โพล" เผย ปชช.เห็นด้วยที่ "ดีอีเอส" แจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับ "นายธนาธร"