svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

กองพิสูจน์หลักฐานสรุปเสี่ยเบนซ์ "ก่อน-ขณะ" ชนรถฟอร์ด ใช้ความเร็ว 215-257 กม.ชม.

29 มีนาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พงศพัศ"ร่วมฟังสรุปผลคดีที่รถเบนซ์ชนฟอร์ด ระบุเจนภพใช้ความเร็วถึง 215-257 กม./ชม. กำชับชุดสอบสวนทำงานอย่างตรงไปตรงมา ญาติขอให้เป็นคดีตัวอย่าง


ที่กองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มี.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่รับผิดชอบดูแล พื้นที่ตำรวจ ภาค1 ได้เดินทางมารับฟังการบรรยายสรุป คดีที่รถเบ็นท์ ที่นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ขับรถเบนซ์ไปชนรถฟอร์ด ของ นายกฤษณะ ถาวร กับ นส.ธันฐภัทร ฮ้อแสงชัย สองนิสิต ป.โทจนเสียชีวิต ทั้งสองคน โดยมี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุษผา รอง.ผบก.จว.อยุธยา หัวหน้าพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ.สุรินทร์ กล่าวว่า คดีนี้ ทำการสอบปากคำพยานมาแล้ว 30 กว่าปาก คาดว่าจะสั่งฟ้องได้ภายใน 3 ฝาก หรือ 36 วัน โดยทำการฟ้อง 2 ข้อกล่าวหาตาม พรบ.จราจร โทษตั้งแต่จำคุก 3-10 ปี ข้อกล่าวหาแรกคือผิดตาม พรบ.จราจร ม.291 ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ข้อหาที่2คือ ขับรถโดยไม่ประมาทและเมาสุราหรือยาชนิดอื่น(ถึงไม่ได้ทำการตรวจเลือด) เราก็สันนิฐานเบื้องต้นว่า เจ้าตัวดื่มสุรามา
การทำงานในครั้งนี้ ตนได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทีมงาน ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วไม่ต่ำกว่า 31 ปาก ซึ่งตอนนี้พยาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของ บริษัท เบนซ์ ได้มาให้การเรื่องความเร็วรถ ก็ไม่สามารถให้การได้ ตอนนี้ตนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญรถเบนซ์จาก ประเทศฮ่องกง ซึ่งเขาสามารถ บอกได้ในทันที ว่ารถคันที่ชนวิ่งด้วยเร็วเท่าไหร่ เนื่องจากว่า รถยนต์รุ่นนี้มีกล่องดำ

กองพิสูจน์หลักฐานสรุปเสี่ยเบนซ์ "ก่อน-ขณะ" ชนรถฟอร์ด ใช้ความเร็ว 215-257 กม.ชม.


ขณะนี้ยืนยันได้ว่า สามารถฟ้องดำเนินคดี ได้อย่างแน่นอน ในข้อหา พรบ.จราจร ซึ่งมีโทษตั้งแต่ติดคุก 3-10 ปี เราได้สอบพยานเป็น 5 ขั้นตอนคือ 1.พยานก่อนเกิดเหตุ 2.พยานและวัตถุพยานขณะเกิดเหตุ 3. พยานหลังเกิดเหตุ 4.พยานแวดล้อม(ญาติ) 5.พยานผู้เชี่ยวชาญต่างๆ โดยหลังจากร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวนจะแถลงอีกครั้งว่าตำรวจจะสามารถแจ้งข้อหาใดเพิ่มเติมได้บ้างโดยเฉพาะประเด็นที่สังคมสงสัยคือเรื่องของความเร็วรถ ก่อนสรุปส่งฟ้องให้กับอัยการ
ตนในฐานะ ที่เป็นพนักงานสอบสวนยืนยันได้ว่า สามารถฟ้องดำเนินคดี ได้อย่างแน่นอน ในข้อหา พรบ.จราจร ซึ่งมีโทษตั้งแต่ติดคุก 3-10ปี เราได้สอบพยานเป็น 5ขั้นตอนแล้ว คดีนี้ผมทำให้ดีที่สุด ถ้าทำไม่ดี ผมอยู่ประเทศไทยไม่ได้แน่ๆ พ.ต.อ.สุรินทร์กล่าว

กองพิสูจน์หลักฐานสรุปเสี่ยเบนซ์ "ก่อน-ขณะ" ชนรถฟอร์ด ใช้ความเร็ว 215-257 กม.ชม.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเร็วที่ผู้ต้องหาใช้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้สรุปให้กับพนักงานสอบโดยผู้ต้องหาใช้เว้นทางจากบ้านด่านพระราม 4 กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ มาถึงจุดเกิดเหตุระยะ 52.1 กิโลเมตร พบว่าผู้ต้องหาใช้เวลาการวิ่งเพียง 25 นาทีซึ่งนี้จะเป็นหลักฐานที่ตำรวจจะใช้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ขณะที่ในวันนี้ ทนายและญาติของผู้เสียชีวิต มาร่วมรับฟังความคืบหน้าในการสอบสวน และอยากให้มีการปรับปรุงการสอบสวนคดีอาญา กระบวนการยุติธรรมปรับปรุงโทษของผู้กระทำผิดให้กฎหมายมีความเข้มแข็งขึ้น โดยทางญาติได้เสนอแนะอยากคดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ให้มีการปรับปรุงกระบวนการสอบสวน ให้เกิดความรวดเร็ว
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ11.10น. หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร และ ผบช.ภ1 พร้อมพนักงานสืบสวนสอบสวน และ ญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน รวมกันแถลงสรุปผลการทำงาน จากผลการตรวจสอบความเร็วของรถเบนซ์นั้น มีความเร็วอยู่ที่ 215-257 กม./ชม. เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ส่วนพฤติการณ์การขับรถในส่วนอื่นๆ เช่นขับรถเร็วเกิด กฎหมายกำหนด ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานแจ้งเพิ่ม

กองพิสูจน์หลักฐานสรุปเสี่ยเบนซ์ "ก่อน-ขณะ" ชนรถฟอร์ด ใช้ความเร็ว 215-257 กม.ชม.


ส่วนพยานบุคคล พนักงานสอบสวนกำหนดไว้ 43 ปาก ขณะนี้สอบไปแล้ว 31 ปาก ส่วนใหญ่เหลือพยานผู้เชี่ยวชาญ สามารถสรุปสำนวนการสอบสวนตามข้อหาต่างๆในข้อหาที่แจ้งแล้วและส่วนที่จะแจ้งเพิ่ม เอาผิดทุกข้อหาได้ ขณะนี้ ผตห. ได้รับอนุญาติฝากขัง12วัน ผลัดสองสิ้นสุด12 เมษา คาดว่าภายในสิ้นเดือนเมษาสรุกสำนวนส่งฟ้องอัยการได้ถ้าสามารถทำเร็วขึ้นก็จะส่งได้ก่อนสิ้นเดือนเมษา เพื่อให้ควสมเป็นธรรมต่อญาติพี่น้องผู้สูญเสีย
ส่วนการตั้งคณะกรรมการ ตร. ที่ทำงานบกพร่อง พระอินทร์ราชาและพนักงานสอบสวนนั้น สรุปแล้วว่า พนักงานสอบสวน บกพร่องไม่ถือปฎิบัติตามระเบียบ ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น เป็นอำนาจ ผบก.จวอยุธยา จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการ
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ทางญาติผู้เสียชีวิต อยากให้พนักงานสอบสวนทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาบนพื้นฐานพยานหลักฐานที่ชัดเจน อยากจะทำกฎหมายให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ผู้กระทำความผิดสมควรถูกลงโทษ อยากให้คดีเป็นตัวกระตุ้นสังคม กระตุ้นกระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยเฉพาะในคดีที่เกี่ยวข้องกับการขับรถโดยประมาท เมาแล้วขับ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต อยากให้ปรับปรุงกฎหมาย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันมาสนใจกับเหตุการณ์เหล่านี้

logoline