นายนิตยา มารดาของนายจีระ พร้อมด้วยบุตรสะใภ้ กล่าวว่า สาเหตุเนื่องจากวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว มีความโกรธแค้นกับนายจีระและเพื่อนของนายจีระ คือ นายกรวิทย์ เกษรินทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ถนนเทศบาล 6 เขตเทศบาลตำบลห้วยยอด กันทางเฟสบุ๊ค โดยไม่ทราบสาเหตุความขัดแย้งที่แท้จริง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นายกรวิทย์ขอให้นายจีระผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกัน โพสต์ข้อความขู่ไปหาคู่อริรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา เพื่อให้เกรงกลัว จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับนายกรวิทย์อีก จนกระทั่งมาเจอหน้ากัน และไล่ฆ่าทั้งสองคน แต่นายกรวิทย์เห็นคู่อริที่กรูกันลงจากรถก่อน จึงวิ่งหนีทัน กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงวิ่งพุ่งเป้าไล่ตามนายจีระไป จนกระทั่งรุมแทง รุมฟันและจาม จนนายจีระเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และหลังเกิดเหตในช่วงกลางคืนวันเดียวกัน กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และได้รับการปล่อยตัวไปโดยไม่ได้ถูกคุมขัง จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเรียกร้องให้ทางตำรวจเอาผิดกับวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวให้ถึงที่สุด เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุที่ใช้อารมณ์ความรุนแรง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และสายตาประชาชน และยังบุกเข้าไปทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน เพื่อลากคู่อริออกมา โดยไม่สนใจใคร โหดเหี้ยม เกินที่มนุษย์จะทำกับเพื่อนมนุษย์ได้ และทางครอบครัวก็ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทางด้าน พ.ต.ท.สิทธิโชค อำนักมณี รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 5 คน ได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้วในช่วงกลางดึกของวันเกิดเหตุ ประกอบด้วย 1.นายกฤษติณ แซ่จึ่ง อายุ 25 ปี ,2.นายสุวรรณ หินอ่อน อายุ 22 ปี , 3.นายธีระพงษ์ พิทักษ์ษิณากุล อายุ 25 ปี, 4.นายณัฐวุฒิ แซ่จึ่ง อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นญาติกับนายกฤษติณ ทั้งหมดเป็นชาวเขตเทศบาลตำห้วยยอด และ 5. นายวุฒิพงษ์ เกลี้ยงศรี อายุ 22 ปี ชาว ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด เจ้าของรถยนต์คันที่นำออกมาตามหาผู้ตายกับเพื่อน โดยเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนทราบว่า นายกฤษติณ ผู้ต้องหาคนที่ 1 มีความขัดแย้งกับนายกรวิทย์ เพื่อนของนายจีระผู้ตาย โดยเป็นเพื่อนกันทางเฟสบุ๊ค มาได้ประมาณ 1 เดือน แต่รู้กันว่าทั้งหมดเป็นชาวเขตเทศบาลตำบลห้วยยอดด้วยกัน
ทั้งนี้ ขณะคุยเล่นกันทางเฟสบุ๊คก็ทำให้มีเรื่องบาดหมางกัน โดยในเวลาประมาณ 14.00 น.วันเกิดเหตุ นายกรวิทย์ขับจักรยานยนต์ไปกับนายจีระ บังเอิญไปพบกับนายกฤษติณซึ่งขับจักรยานยน์มากับเพื่อนรวม 2 คนเช่นกัน และจำกันได้ จึงได้จอดรถลงมาถามกัน โดยนายกรวิทย์ถามนายกฤษติณว่า มึงจะเอายังไงกับกู รู้ไหมว่ากูเป็นใคร จากนั้นนายกรวิทย์ก็ชกหน้านายกฤษติณ โดยนายจีระเข้าไปห้าม แล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็แยกย้ายกันขับจักรยานยนต์ออกไป โดยนายกรวิทย์กับนายจีระได้ไปจอดรถจักรยานยนต์แวะซื้อน้ำ และบุหรี่สูบที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง บนถนนชุมชน
ขณะที่นายกฤษติณหลังถูกชก ก็ได้ไปตามพวกมารวม 4 คน พร้อมอาวุธมีด มีดพร้า ขวาน เหล็กขูดชาร์ป และไม้หน้าสาม ตามที่หาได้ แล้วขึ้นรถยนต์ขับตระเวนตามหาทั้ง 2 คนทันที จนกระทั่งมาพบทั้ง 2 คน อยู่บนถนนย่านชุมชนพลุกพล่านดังกล่าว จึงกรูกันลงจากรถวิ่งเข้าไปจะทำร้าย แต่นายกรวิทย์เห็นเสียก่อนจึงวิ่งหนีได้ทัน ขณะที่นายจีระได้วิ่งหนีเข้าในบ้านชาวบ้าน แต่บ้านหลังดังกล่าวประตูหลังปิดตาย จึงออกไม่ได้ จึงเข้าไปหลบในห้องนอนของชาวบ้าน แต่กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ยังพังประตูบ้าน ประตูห้องนอน และโต๊ะ เก้าอี้ภายในบ้าน จนแตก พังเสียหาย แล้วลากตัวนายจีระออกทำร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว และได้มามอบตัวในเวลาต่อมา
โดยทางตำรวจตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน ซึ่งทั้งหมดก็ให้การรับสารภาพ จากนั้นได้ปล่อยตัวไป ตามสิทธิ์ เนื่องจากเข้ามอบตัวก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับ ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจเจ้าของคดีก็จะนัดมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป หากเบี้ยวนัดก็จะออกหมายจับในภายหลังได้อีก ส่วนนายสมนึก ทองเผือ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ถนนชุมชน เขตเทศบาลตำบลห้วยยอด ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน ฐานทั้งหมดทำให้เสียทรัพย์แล้ว ซึ่งยืนยันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ต่อไป