โดยอดีตประธานาธิบดี นายอาลี ซาเล่ห์ (Ali Saleh) พร้อมกับผู้นำกลุ่มนักรบฮูตินิกายชีอะฮ์ นาย อับดุล มาลิก อัล-ฮูติ (Abdul Malik al-Houthi) ซึ่งเข้าร่วมในการชุมนุม ได้แถลงกล่าว หาประธานาธิบดีคนปัจจุบัน นาย อับเดห์-รับบู ฮาดิ (Abd-Rabbu Hadi ) ซึ่งได้รับการยอม รับจากนานาชาติ ว่าเป็นทหารรับจ้างที่รับใช้ซาอุดิ อาระเบีย และประเทศพันธมิตรผู้รุกราน ที่นับถือนิกายซุนนีซึ่งเป็นปฏิปักษ์กัน
กลุ่มชาวฮูติเชื้อสายชีอะฮ์ ได้ชุมนุมที่จตุรัสใหญ่แห่งหนึ่งในพื้นที่ภายใต้การยึดครองโดยนัก รบชีอะฮ์ ซึ่งผู้ชุมนุมได้แต่งกายในชุดประจำชาติ และชูป้ายแสดงข้อความ และภาพของผู้ นำทั้งสอง คือนาย ซาเล่ห์ และนาย มาลิก อัล-ฮูติ ในพื้นที่ชุมนุม
โดยก่อนที่ซาอุดิ อาระเบีย จะเริ่มส่งทหารเข้ามารุกรานเยเมนในวันที่ 26 มีนาคม คือเมื่อวานนี้ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดการสู้รบภายในประเทศเยเมนหนแรก ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2557 โดยอดีตประธานาธิบดี ซาเล่ห์ ได้เข้ายึดเมืองซาน่า และจับกุมตัวประธานาธิบดี ฮาดิ และคณะรัฐมนตรีเอาไว้ ซึ่งภายหลังทุกคนได้หลบหนีจากเมืองนี้ไปได้
โดยต่อมานายซาเล่ห์ ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดและกำลังทหารเข้าโจมตีเมืองอีเดน ซึ่งนาย ฮาดิได้หลบหนีเข้าพักพิง ก่อนที่เขาจะต้องหนีออกนอกประเทศไปลี้ภัยในซาอุดิ อาระเบีย ซึ่งในที่สุด ก็ได้ส่งกำลังทหารของตนเอง และกองทัพประเทศพันธมิตร ซึ่งล้วนนับถือนิกาย ซุนนี เข้ารุกรานประเทศเยเมนเพื่อปราบปรามนักรบกลุ่มฮูติ ที่นับถือนิกายชีอะฮ์
โดยสงครามและความรุนแรง โดยเฉพาะจากการโจมตีทางอากาศโดยกลุ่มพันธมิตรนำโดย ซาอุดิ อาระเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 6,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนชาวเยเมน