"ศานิตย์"ชี้คดีทายาทกระทิงแดงขับรถชนตร.ดับ "พนักงานสอบสวนบกพร่อง"
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง ที่ตกเป็นผู้ต้องหากรณีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิต โดยลากศพไปไกลกว่า 200 เมตร ทั้งนี้คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 และพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อเจ้าของพื้นที่ก็ได้ทำสำนวนส่งอัยการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 โดยตั้งข้อหา 4 ข้อหา คือ ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชนและไม่แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ,ขับรถขณะเมาสุรา และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในส่วนของข้อหาขับรถเร็วฯ นั้น มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท อายุความเพียง 1 ปี
ล่าสุดวันนี้ (25 มี.ค.59) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร รรท.ผบช.น.1 ได้เดินทางมาตรวจสำนวนคดีดังกล่าว เพื่อหาข้อบกพร่องในการทำงานกับ พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ และ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 จึงต้องทำการตรวจสอบว่า มีการบกพร่องตรงไหนถึงทำให้ข้อหาขับรถเร็วที่มีอายุความ 1 ปีนั้นสิ้นสุดอายุความในการดำเนินคดี สำหรับกรณีดังกล่าวได้สั่งให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ทำหนังสือรายงาน แต่ปรากฏว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยังทำรายงานไม่เรียบร้อย จึงเดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเอง กรณีดังกล่าวควรทำให้เกิดความชัดเจน ว่ามีความบกพร่องตรงขั้นตอนใด มีการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ มีการวิ่งเต้นคดีหรือไม่ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว และทำไมถึงไม่สามารถนำตัวนายวรยุทธ มาสั่งฟ้องได้ ซึ่งนายวรยุทธอ้างว่าอยู่ต่างประเทศ จึงไม่สามารถนำตัวสั่งฟ้องได้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ต้องทำให้สังคมหมดข้อสงสัย หากตรวจสอบพบว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการลงโทษทั้งทางปกครองและทางวินัยทันที จากการตรวจสอบในขณะนั้นมีการตั้งคณะกรรมการตอบสวนทั้งหมด 6 นาย คือ พล.ต.ต.กฤษฏิ์เปียแก้ว อดีต ผบก.น.5 , พ.ต.อ.ไตรเมศ อุทัย อดีต รอง ผบก.น.5 , พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง อดีต ผกก.สน.ทองหล่อ , พ.ต.อ.สำฤทธิ์ เกตุแย้ม พ.ต.อ.วิบุลย์ ถินวัฒนากูล พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี อดีต พงส.สน.ทองหล่อ จะต้องทำการสอบสวนเพื่อหาข้อสรุปดังกล่าวพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า ต่อจากนี้จะให้พล.ต.ท.ศานิตย์ จะต้องทำการตรวจสอบ สน.ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ว่ามีกรณีคล้ายลักษณะดังกล่าวอีกหรือไม่ กรณีเมาแล้วขับ หากพบให้ทำการรื้อสำนวนใหม่ เพื่อให้หมดข้อกังขา ซึ่งไม่เพียงแต่ บช.น.เท่านั้น แต่จะทำทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการในพล.ต.ท.ศานิตย์ ทำรายงานคดีดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรส่งภายในวันที่ 28 มีนาคมนี้ เพื่อตนจะยื่นต่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะให้สัมภาษณ์อยู่นั่นทาง พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้พูดขึ้นว่า "ฟังธง พนักงานสอบสวนบกพร่อง" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการกล่าวหาลูกน้องหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการกล่าวหา เชื่อว่ามีความบกพร่อง แต่จะตรงไหนนั้น ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ตนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทำการตรวจสำนวนเสร็จสิ้น พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้ขึ้นรถทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อ