เบลเยียมพลาดโอกาสป้องกันการโจมตี

รัฐมนตรีเบลเยียม 2 คน คือนายยอง ฌามบง รัฐมนตรีมหาดไทย และนายกูน เกนส์ รัฐมนตรียุติธรรม ได้ยื่นขอลาออก หลังเกิดเหตุโจมตีสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน และบาดเจ็บเกือบ 200 คน โดยเกิดขึ้นหลังจากได้รับคำเตือนจากตุรกีเกี่ยวกับนายอับราฮีม เอล บาคราวี ทำให้เขากลับไปก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินซาเวนเท่ม แต่นายกรัฐมนตรีชาร์ลส มิเชล ได้ปฏิเสธและขอให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป
ด้านนายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุโจมตีที่กรุงปารีส เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2558 ได้เปลี่ยนใจไม่ขอต่อสู้เพื่อให้ส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปยังฝรั่งเศส และอ้างว่า ไม่ทราบมาก่อนว่ามีการวางแผนก่อเหตุในกรุงบรัสเซลส์ ส่วนตำรวจเบลเยียมตกเป็นเป้าการตำหนิ ที่พลาดโอกาสป้องกันเหตุนองเลือดที่บรัสเซลส์ หลังมีรายงานว่า สอบปากคำนายอับเดสลามที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ "บรูชเชส" ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุด เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ในช่วง 4 วัน ก่อนเกิดเหตุ ซึ่งถ้าสอบเค้นมากกว่านี้ อาจจะป้องกันเหตุร้ายได้ ทั้งยังไม่ได้ข้อมูลข่าวกรองใดๆ เกี่ยวกับเหตุร้ายที่บรัสเซลส์ เพราะเจ้าหน้าที่เอาแต่สอบสวนเขาเรื่องเหตุการณ์โจมตีที่ปารีส
การโจมตีที่บรัสเซลส์ ถูกมองว่า เป็นผลมาจากหลังการจับกุมนายอับเดสลาม ทำให้พวกที่เหลือกลัวว่าเขาจะทรยศ, เผยเบาะแสและระบุตัวตนของพวกเขา ส่วนระเบิดที่ใช้โจมตีกรุงบรัสเซลส์ มีชื่อว่า "มารดาแห่งซาตาน" ที่มีส่วนผสมของไตรอะซีโตนไตรเพอร์ออกไซด์ หรือ TATP ซึ่งเป็นผงสีขาว มีส่วนผสมของน้ำยาฟอกขาวและน้ำยาล้างเล็บ แม้ปริมาณไม่กี่กรัมก็สามารถทำให้มือระเบิดเป็นจุลได้ แต่ถ้าปริมาณมากก็สามารถทำลายอาคารได้ทั้งหลัง และพวกหัวรุนแรงในยุโรปนิยมใช้กัน เพราะง่ายทั้งการประกอบและการจุดชนวนระเบิด