ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวหญิงสาวชาวจีน 2 คน ที่ถูกหลอกมาทิ้งไว้ที่บริเวณถนนกาจญาภิเภษวงแหวนตะวันตกหมายเลข 9 กม. 53 หมู่ 2 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 พร้อมลูกกระสุน 4 นัด ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รถแท็กซี่สีส้ม ยี่ห้อโตโยต้า โคโลนา หมายเลขทะเบียน ทศ 412 กรุงเทพมหานคร ข้างรถพ่นโลโกสหกรณ์บวรแท็กซี่จำกัด พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายและเงินสดจำนวน 20,900 บาท
ทั้งนี้ น.ส.ซียี่เช้ง อายุ 26 ปี และน.ส.โกฮัน อายุ 27 ปี ได้ถูกรถแท็กซี่ชิงทรัพย์และไล่ลงจากรถ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 59 ที่ผ่านมา จากการสอบถามทราบว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน ขึ้นรถแท็กซี่มาจากสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอซิต ในช่วงเช้า ให้ไปส่งที่นครชัยแอร์ เพื่อจะเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อขึ้นรถแท็กซี่มาได้ประมาณ 15 นาที คนขับได้นำอาวุธปืนออกมาขู่ให้ก้มหน้าลงตลอดเส้นทาง โดยขับออกนอกเส้นทางจนมาถึงอ.ลาดหลุมแก้ว
จากนั้นบังคับข่มขู่ให้เอาทรัพย์สินที่มีอยู่ให้ไป ประกอบด้วย พาสปอร์ต 2 เล่ม เงินไทยและเงินจีนรวมกันประมาณ 20,900 บาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 2 เครื่อง และกระเป๋าเดินทางใส่เสื้อผ้า 2 ใบ จากนั้นถูกไล่ลงจากรถแท็กซี่ กระทั่งทั้ง 2 คนเดินไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ.บริษัท SCL และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวคนร้าย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามผู้เสียหาย และติดตามหาคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดใกล้เคียงรวมถึงข้อมูลจากศูนย์แท็กซี่ จนได้ภาพรถของคนร้าย และสามารถติดตามจับกุมคนขับรถได้ คือ นายอาณพ เคยติดคุกคดียาเสพติดที่ จ.พิจิตร นาน 2 ปี 8 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 เมื่อออกมาจากคุกได้ไปเช่ารถแท็กซี่มาขับจนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนนายอาณพ ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนขับแท็กซี่รายได้ไม่พอใช้ โดยมีความจำเป็นต้องนำเงินไปใช้จ่ายเลี้ยงดูลูก 2 คน อายุ 1 ขวบและ 6ขวบ ซึ่งก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก เมื่อได้ไอโฟนไปจึงพยายามเปิดใช้ และได้มีสัญญาณโทรเข้ามาจึงรับพบว่าเป็นตำรวจ จึงรู้ว่าตำรวจตามสัญญาณได้แล้ว ด้วยความโมโหจึงปาโทรศัพท์ทิ้งจนกระจกไอโฟนแตกด้าน พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า ตำรวจได้มีการบันทึกข้อมูลรถแท็กซี่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี แต่เนื่องจากรถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นรถที่มาจากกรุงเทพฯ ย่านหมอซิต จึงได้ประสานข้อมูลกับตำรวจท่องเที่ยว เพื่อตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิด รวมถึงสัญญาณโทรศัพท์ไอโฟนที่คนร้ายพยายามเปิดใช้ พบว่าคนร้ายได้ทิ้งนักท่องเที่ยวแล้วหลบหนีไปย่าน อ.หนองเสือ ตร.จึงติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืน ,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืน และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควร