ปิดล้อมพื้นที่ล่า 6 ชม. คนร้ายแหกด่านยิงตร.เจ็บ 2 ยังไร้วี่แวว

ที่เกิดเหตุบริเวณแยกไปแดงธัญธรณ์ ตรงข้ามกับศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ปทุมธานี พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีเขียวเข้ม ทะเบียน กม 265 นนทบุรี ซึ่งเป็นรถของคนร้าย สภาพไฟหน้าด้านซ้ายแตก ด้านข้างฝังซ้ายมีรอยครูด และกันชนด้านหลังหลุดออกทั้งหมด บริเวณด้านหน้ารถเก๋งคันดังกล่าว พบรถยนตร์ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ทะเบียน ฒต 4522 กรุงเทพมหานคร มีสภาพไฟท้ายด้านขวาแตก และมีรอยยุบ ส่วนด้านท้ายของรถยนต์เก๋งคันก่อเหตุ 
ยังพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ ทะเบียน ญส3985 กรุงเทพมหานคร บริเวณข้างไฟมีหน้าด้านรอยยุบเข้าไป ด้านข้างยังมีรถที่ได้รับความเสียหายอีกคนเป็นรถตู้กูภัย ทะเบียน ฮง 7030 สภาพถูกชนด้านหน้าฝั่งซ้ายมีร่องรอยการถูกชนมีรอยคุดและยุบเข้าไปเล็กน้อย ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร พบรถสิบล้อทะเบียน 82-6526 ปทุมธานี ที่ด้านหลังพบมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนจำนวน 1 นัด บริเวณพื้นพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวนมาก 

นายศุภณัฐ ฐิติกาล อายุ 30 ปี คนขับรถตู้กู้ภัย กล่าวว่า ขณะที่ตนขับรถตามผู้ต้องหามานั้นไม่ได้เกิดความผิดปกติแต่อย่างใด กระทั่งจนมาถึงแยกไปแดงที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ของตำรวจจำนวน 2 คัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย ขับประกบมา โดยรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้พยายามถอนรถชนด้านหลังและด้านหน้าเพื่อเปิดทาง แต่ไม่สามารถหนีออกไปได้
 หลังจากนั้นตำรวจได้ใช้ปืนยิงบริเณที่ล้อหลัง คนร้ายจึงใช้ปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 2ราย ก่อนจะเปิดประตูรถวิ่งหนีไปในหมู่บ้านสวนเกษตร โดยคนร้ายมีลักษณะรูปพรรณสันฐานสูงประมาณ 165-170 ซม. ผิวขาว ใส่เสื้อเชิ้ตลายสกอตสีส้มอิฐ กางเกงยีนขายาว ภายในรถพบผู้หญิงวัยกลางคนจำนวน 3 คน และ เด็กผู้ชาย อายุประมาณ 10 ขวบ อีก 1 คน 

พ.ต.ต.อำนาจ เปิดเผยว่า คนร้ายได้ขับรถแหกด่านตรวจสิ่งผิดกฎหมายที่บริเวณคลอง 5 และขับรถไปบนถนนรังสิต-นครนายกขาออก หลังจากนั้นได้กลับรถบริเวณหน้า รพ.ธัญบุรี เข้าสู่ถนนรังสิต-นครนายก ฝั่งขาเข้า จึงมาติดไฟแดงตรงที่เกิดเหตุและมีการยิงต่อสู้กัน หลังจากนั้นคนร้ายได้วิ่งหนี้เข้าไปในหมู่บ้านสวนเกษตร คลอง 5 ไปเข้าบ้านชาวบ้านในระแวกนั้นก่อนจะถูกไล่ออกมา และหนีข้ามกำแพงข้างหมู่บ้านเข้าป่ากก ซึ่งมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
 ขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นตำรวจ 2 นาย คือ ส.ต.ต.ธัชชัย โลหกุล และ ด.ต.ณกฤษ ศิริสงค์ สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.ธัญบุรี บาดเจ็บบริเวญหน้าอกทะลุหลัง อีกคนถูกยิงที่ขาซ้าย
 จากการค้นภายในรถพบซองปืน 1 อัน สนับมือ 1 อัน และมีดพกอีก 1 เล่ม โดยขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่านสืบสวนได้ระดมกำลังออกตามหาตัวคนร้าย ซึ่งมีการคาดการกันว่าผู้ต้องสัยคือที่ยิงตำรวจในครั้งนี้คือ นายรุ่งโรจน์ เสือปรางค์ ซึ่งเคยถูก พ.ต.ท.สมชาย อรภักดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นนทบุรี ออกหมายจับ ในคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2558 แต่หลบหนีการจับกุม 

นอกจากนี้มีรายงานว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุคนร้ายรายนี้ได้ไปเยี่ยมญาติที่สถานบำบัดพิเศษ จ.ปทุมธานี และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถ โดยผู้ที่นั่งมาด้วยพบยาเสพติด(ยาบ้า)จำนวนกว่า 10 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนภายในกระเป๋าถือของภรรยาคนร้าย ที่นั่งอยู่เบาะหน้าด้านข้างคนขับ 

ต่อมาเวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้เข้าประสานกำลังในพื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน2 พล.ร.2 รอ. รวมกว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นภายในหมู่บ้าน และป่ากกข้างหมู่บ้านที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีทางออกได้หลายทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้รถดับเพลิงจำนวน 2 คัน ฉีดนำเข้าไปในป่ากกเพื่อให้ต้นกกราบพื้น แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้
 กระทั่งเวลา 19.00น. ตำรวจได้นำเฮอลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ พร้อมสนับสนุนกำลังจากหน่วยอรินทราช26 เข้ามาช่วยตรวจค้นกว่า 1 ชั่วโมง กดดันดัวยการใช้ไฟส่องสว่างกำลังสูง ส่องจากเฮลิคอปเตอร์สู่พื้นป่ากก และใช้แรงลมจากใบพัดตีให้หญ้าแตก แต่ก็ยังไม่สามารจับกุมตัวได้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 20.15 น. เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมพื้นที่ไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ โดยการปฏิบัติงานในการปิดล้อมจับกุมต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายเป็นบุคคลอันตราย มีอาวุธปืน และเป็นเวลากลางคืน ขณะเดียวกันคนร้ายยังมีประวัติต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เคยยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหนีการจับกุมมาแล้วเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา