ป่าไม้ไทยหายปีละ 1 ล้านไร่

วันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันป่าไม้โลก (World forestry day) เพื่อให้คนทั่วโลก เล็งเห็นถึงคุณค่า และประโยชน์ของทรัพยากรป่าไม้ ที่มีอยู่จำกัด โดยจะมีกิจกรรม รณรงค์ปลูกป่าในวันนี้ด้วย แต่ล่าสุดมีข้อมูลที่น่าตกใจ โดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา ได้นำภาพถ่ายดาวเทียมแผนที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 จากดาวเทียมของพบว่าพื้นที่สีเขียวหรือป่าไม้ของไทย เหลืออยู่น้อยมาก ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิทะลุ 40 องศาเซลเซียส
นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่าผลการสำรวจสภาพพื้นที่ป่าของกรมป่าไม้ กับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าพื้นที่ป่าไม้เหลือเพียง 102 ล้านไร่ หรือร้อยละ 31.57 ของพื้นที่ประเทศ เทียบกับข้อมูลปี 2551มีประมาณ 108 ล้านไร่ หมายความว่าพื้นที่ป่าไม้ลดลงกว่า 6 ล้านไร่ หรือ ร้อยละ 2.37 เฉลี่ยลดลงปีละกว่า 1 ล้านไร่ ยอมรับว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ สาเหตุจากการบุกรุกทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง และส่งผลทำให้สภาพป่าในแทบทุกพื้นที่เข้าสู่สภาวะเสื่อมโทรม ระบบนิเวศป่าขาดสมดุล โดยมี 6 จังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ป่าไม้เลย คือ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และอ่างทอง เนื่องจากมีพื้นที่ป่าต่ำกว่า 3 พันไร่
นายสมชัย บอกว่า ประเทศไทย มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่า ให้ได้ร้อยละ 40 ซึ่งต้องมีป่าอีก 26 ล้านไร่ หรือรวมกับของเดิมจะต้องมีป่ารวม 128 ล้านไร่ ยอมรับว่าการปลูกป่า ยังทำได้น้อยมากปีละไม่กี่หมื่นไร่ ไม่ทันกับการบุกรุกที่มีสูงกว่า 1-2 แสนไร่ หากให้เวลาจะต้องใช้เวลาเป็น 100ปี เพราะขาดทั้งงบและกำลังคน ดังนั้นจึงต้องเริ่มช่วยกันปลูกตั้งแต่วันนี้ อย่างไรก็ตาม หากเทียบความวิกฤติสถานการณ์ป่าไม้ที่ลดลง เราอยู่อันดับ 7 โดยอันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย ลาว ปากีสถาน เนปาล และไทย ทำให้เกิดปัญหาภัยแล้งและน้ำป่าไหลหลาก เมื่อป่าถูกทำลายไม่มีพื้นที่อุ้มน้ำ ก็ไม่มีปลดปล่อยจากพื้นที่ต้นน้ำลง แม่น้ำสำคัญปิง วัง ยม น่านแห้งแล้งหมด ปีนี้โลกร้อน เรามีปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงเพราะเราไม่มีป่ามารักษาระบบนิเวศน์ไว้