ในเบื้องต้นทนายความส่วนตัวให้ข้อมูลว่า นายเจนภพ ได้ให้การปฏิเสธ แต่รับสารภาพเพียงข้อหาเดียวในข้อหาที่ขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันเมื่อเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ลงพื้นที่ไปพูดคุยและให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิตที่ จ.จันทบุรี
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับผลการตรวจสารเสพติดและสารอื่นๆในร่างกาย จะทราบผลประมาณช่วงบ่ายวันนี้ (21 มี.ค.) ว่า มีสารอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนเรื่องหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานแวดล้อมอย่างอื่น นั้น เรื่องนี้อยู่ในสำนวนโดยจะนำเรียนให้เร็วที่สุด แต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งว่าผู้ขับขี่หย่อนความสามารถในการขับขี่ จึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ และได้สั่งให้ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา ไปช่วยราชการ 15 วัน เพื่อไม่ให้ยุ่งกับสำนวน และตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าคดีนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงไปตรงมาตั้งแต่ต้น ส่วนจะมีการพิจารณายกเลิกใบขับขี่รถยนต์หรือไม่นั้น ต้องดูที่กรมการขนส่งทางบกโดยตรงที่มีอำนาจในเรื่องนี้ โดยพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ทำเรื่องไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้พิจารณาว่า จะเพิกถอนในอนุญาตขับขี่รถยนต์หรือไม่
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า ในส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหาคดีนี้ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ หรือ คนสองบุคคลิก ซึ่งผู้ต้องหาจะป่วยจริงหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ทางตำรวจไม่สามารถระบุได้ เพราะต้องรอแพทย์ตรวจพิสูจน์ ส่วนจะมีการคำนวณปริมาณยาหรือไม่ก็ต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ และแพทย์จะต้องแจ้งกลับมาว่า ส่งผลอย่างไรกับการขับขี่หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินคดีไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าใครรวยใครจน ตำรวจใช้มาตรฐานเดียวกันหมด ขอให้ประชาชนสบายใจ ถ้าหากมีการกดดันหรือพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ก็จะเจออีกข้อหาด้วย ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาปฏิเสธการเจาะเลือดว่ากลัวเข็มนั้น ก็ต้องดูเป็นข้อเท็จจริงอีกครั้ง