ศาลบราซิลยับยั้งตั้งอดีตปธน.ร่วมรัฐบาล

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายลูอิซ อินาซิโอ้ ลูลา ดาซิลวา อดีตประธานาธิบดีวัย 70 ปีสาบานตนรับตำแหน่งหัวหน้าคณะที่ปรึกษารัฐบาลต่อหน้าประธานาธิบดีดิลม่ารุสเซฟฟ์เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้พิพากษา อิตากิบา กัตต้า เปรต้า มีคำสั่งให้ระงับการแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวหรือตำแหน่งอื่นใดที่จะทำให้เขาได้รับเอกสิทธิคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดี
คำสั่งนี้มีขึ้นหลังจากผู้พิพากษา เซร์จีโอ โมโร หัวหน้าทีมสอบสวนคดีทุจริตในบริษัทเปโตรบราส รัฐวิสาหกิจน้ำมันของรัฐ มีคำสั่งวันพุธให้เปิดเทปเสียงสนทนาที่ได้จากการดักฟังโทรศัพท์ระหว่างลูลาและรุสเซฟฟ์ มีใจความว่า เธอให้คนส่งเอกสารแต่งตั้งลูลาไปให้ เผื่อต้องการใช้หากจำเป็น ซึ่งบ่งชี้ว่าการแต่งตั้งมีจุดประสงค์ช่วยให้อดีตผู้นำรอดพ้นจากการถูกจับกุมในคดีที่เขาถูกกกล่าวหาว่ารับสินบนจากบริษัทที่มีส่วนพัวพันคดีทุจริตในบริษัทเปโตรบราส
ตามกฎหมายของบราซิล มีเพียงศาลฎีกาที่จะพิจารณาคดีรัฐมนตรีได้ ดังนั้นเอกสิทธิคุ้มครองจะช่วยปกป้องลูลาจากศาลอาญาได้
หลังจากนั้นสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการชุดใหม่เพื่อพิจารณาดำเนินกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีรุสเซฟฟ์ด้วยข้อกล่าวหาใหม่ นอกเหนือกระบวนการถอดถอนด้วยข้อกล่าวหาละเมิดกฎหมายว่าด้วยความรับผิดชอบทางการคลังกรณียืมเงินจากธนาคารของรัฐอย่างไม่ถูกกฎหมายเพื่อนำไปปกปิดยอดขาดดุลงบประมาณ
ขณะเดียวกันฝูงชนจำนวนมากออกมาเดินขบวนตามท้องถนนทั้งในนครเซาเปาโลกรุงบราซิเลีย และนครริโอ เด จาเนโรเมื่อวานด้วยความโกรธแค้นหลังการเผยหลักฐานคลิปเสียงสนทนาเรื่องการแต่งตั้งลูลา และผู้ประท้วงหลายคนตะโกนว่า "น่าละอาย"
ความเคลื่อนไหวตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ทำให้ตลาดหุ้นบราซิลปิดตัวสูงขึ้น 6.6%สูงที่สุดในรอบ 7 ปี ส่งสัญญาณว่าตลาดขานรับด้วยความยินดีว่าใกล้ถึงจุดจบของรัฐบาลรุสเซฟฟ์ และหุ้นเปโตรบราสพุ่งขึ้น 12%