เมียรปภ.เอสซีบีที่เสียชีวิต เผยสามีดูแลห้องเกิดเหตุ เข้าไปช่วยคน แต่ประตูเกิดปิดตาย

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 14 มีนาคม 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการนำศพของผู้เสียชีวิต 8 ราย จากเหตุระบบดับเพลิงขัดข้อง ภายในชั้นใต้ดิน บี1 ของอาคารเอสซีบีพาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ โดยวันดังกล่าวมีการติดต่อขอรับศพ รวม 4 ศพ คือ นายยุทธนา คนสร้าง นำไปบำเพ็ญกุศลวัดหลักสี่ ส่วนศพนายณัฐวุฒิ นาสมพงษ์ ,นายสายฝน แล้นโครต และนายวิรัช ดีดพิณ อายุ 52 ปี มีญาติมาติดต่อแต่ยังไม่สามารถรับศพออกได้ เนื่องจากยังขาดเอกสารบางอย่างอยู่ ซึ่งจะมีการรับศพในวันที่ 15 มีนาคม บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ผลชันสูตรเบื้องต้นทั้ง 8 ศพ เสียชีวิตจากสาเหตุ "สมองขาดอากาศ"
นางบังอร โตใหญ่ อายุ 58 ปี ภรรยาของนายวิรัช กล่าวพร้อมน้ำตาว่า สามีเป็น รปภ.ของธนาคารดังกล่าว ทำงานมาหลายสิบปีแล้ว และย้ายมาดูแล ห้องซองดำ จุดเกิดเหตุ เมื่อ 3-4 เดือน มีหน้าที่ดูแลประตูห้องนี้โดยเฉพาะ ต้องใช้การ์ดและรหัสผ่าน ซึ่งมีสามีเป็นคนดูแล การเปิดประตูเข้าออกห้องนี้ เมื่อวานช่วงเช้ายังพูดคุยกันปกติ ก่อนจะออกมาจากที่พักย่านบางบัว ไปเข้าเวร เวลา 19.00-07.00น.

ก่อนเกิดเหตุยังมีการแวะไปหาลูกชายที่ทำงานเป็น รปภ. เช่นกัน เข้าเวรอยู่ประมาณ 17.00 น. เท่าที่ทราบก่อนเกิดเหตุมีการประสานจากช่างมาว่าจะเข้ามาปรับปรุงห้องดังกล่าว ช่วงประมาณ 19.00 น. กระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนางบังอร กล่าวต่อไปว่า จากคำบอกเล่าของ รปภ.ที่เข้าเวรอยู่ และกล้องวงจร ปิด ขณะเกิดเหตุสามีที่ดูแลห้องดังกล่าวอยู่ เปิดประตูเข้าไปพยายามให้คนหนีออกมา แต่ระหว่างนั้นประตูเกิดปิดตาย การ์ดและรหัสไม่สามารถใช้ได้ ทำให้สามีและคนที่เข้าไปทำงานในห้องนั้นออกมาไม่ได้
"รู้สึกเสียใจเนื่องจากสามีเป็นคนดี เข้าไปช่วยเหลือคนอื่นจนเสียชีวิต สามีเป็นเสาหลักของบ้าน ที่ดูแลลูก 6 คนซึ่งเป็นลูกของภรรยาเก่าและลูกปัจจุบัน ซึ่งตัว ฉันเองตอนนี้ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จนต้องตัดขาซ้ายทิ้งไปได้ประมาณปีกว่า ทุกวันนี้ต้องนั่งวีลแชร์ อยากให้ทางธนาคารเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนศพจะมารับในวันพรุ่งนี้หลังเที่ยง นำไปบำเพ็ญกุศล วัดบางบัว ศาลา3 ต่อไป" นางบังอรระบุ