จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. ได้เข้าทำการจับกุม ด.ต.ธีร์ชัชอัศม์ หรือ บุญยัง เมืองกระจ่าง ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สน.บางขุนเทียน ในคดีค้ายาเสพติด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปถึงรองผู้บัญชาการ และข้าราชการตำรวจทุกระดับ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งดำเนินการปราบปรามปัญหายาเสพติดที่อาจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับตำรวจบางคนที่ยังมีผลประโยชน์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม กับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนจึงได้สั่งการให้ ทุก บก. , ทุก สน. เข้มงวดกวดขันอย่างจริงจัง อย่าให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้นทั้ง 88 สถานีตำรวจนครบาล อย่างเด็ดขาด หากยังเกิดขึ้นอีก นอกจากผู้กำกับสถานี และผู้บังคับบัญชาในสายงานแล้ว ผู้บังคับบัญชาระดับกองบังคับการฯ โดยเฉพาะ รอง ผบก. ที่รับผิดชอบยาเสพติด อาจต้องถูกพิจารณาโทษด้วย
ปัญหายาเสพติดรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการกวาดล้างเป็นอย่างมาก ซึ่งผมได้เน้นย้ำให้ข้าราชการตำรวจ ต้องเร่งเข้าไปปราบปราม ขุดรากถอนโคน ขยายผลยึดทรัพย์ และดำเนินคดีใน 5 ข้อหาหลัก ได้แก่ ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย และทำคดีสมคบ ซึ่งจากนี้ไปเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดนครบาล จะต้องปราบปรามให้หมดสิ้นไปโดยเร็วที่สุด พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า การจับกุม ด.ต.ธีร์ชัชอัศม์ หรือ บุญยัง เมืองกระจ่าง ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สน.บางขุนเทียน ในคดีค้ายาเสพติดนั้น จากการตรวจสอบความเชื่อมโยง ระหว่าง ด.ต.ธีร์ชัชอัศม์ กับแก๊งโอรส เบื้องต้นพบว่า มีการโอนเงินให้กับ ด.ต.ธีร์ชัชอัศม์ โดยผ่านบัญชีธนาคาร แต่ในส่วนของแก๊งโอรส ขณะนี้ถูกจับกุมและปราบปรามไปตั้งแต่ปี 2558 ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูล ก็ยังไม่พบว่ามีตำรวจนายอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดร่วมกับ ด.ต. ธีร์ชัชอัศม์ แต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนดำเนินการทางวินัย และดำเนินคดีอาญา กับ ด.ต.ธีร์ชัชอัศม์ ไปพร้อมๆ กันแล้ว