พ.ต.อ.ณธีพัฒน์ อัครพงศ์ธิติ ผกก.สภ.แม่ปิงร่วมกันแถลงการจับกุมตัวนายพัฒนพงษ์ จันทร์ผุด อายุ 30 ปีบ้านเลขที่ 88 หมู่ 8 บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาคดี มียาเสพติดประเภท1(เฮโรอีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายพร้อมด้วยของกลาง 1.เฮโรอีนชนิดผงบรรจุในถุงใสประทับสัญลักษณ์ตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลกสีแดงจำนวน 41 ถุงน้ำหนัก14.3 กิโลกรัม 2.รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน เทียน่าทะเบียน 4 กก- 8314 กรุงเทพมหานคร 3.โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5s สีขาว จำนวน 1 เครื่อง
พล.ต.ต.ปชา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากพื้นที่ภาคเหนือเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยจากการสืบสวนพบว่าได้มีชายต้องสงสัยคือนายพัฒนพงษ์ มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยที่ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวมีพฤติกรรมว่าจ้างให้รถยกไปยกรถยนต์ของกลางที่จอดเสียอยู่ที่บริเวณทางเข้าโรงแรมฮอลิเดย์รีสอร์ท ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อขนรถยนต์ของกลางไปยังพื้นที่ภาคใต้ โดยจาการตรวจสอบพบว่านายพํัฒนพงษ์เคยมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันที่ว่าจ้างให้รถยกมายกรถที่เสียเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามมาแล้วหนึ่งครั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ต้องสงสัยนั้นจะมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องในการขนยาเสพติดจากภาคเหนือไปส่งยังภาคใต้ครั้งนี้จึงได้เข้าตรวจค้นรถยนต์ของกลางดังกล่าว
จากการเข้าตรวจสอบรถยนต์ที่จอดไว้นั้นพบว่าบริเวณน๊อตกันชนด้านหลังนั้นมีร่องรอยการแกะจึงได้ถอดออกดูพบว่าบริเวณด้านข้างของท้ายรถทั้งสองข้างถูกเจาะเป็นช่องและเมื่อแกะออกภายในพบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามตัวนายพัฒนพงษ์โดยพบว่านายพัฒนพงษ์ได้ไหวตัวทัน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจากภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมฮอลิเดย์รีสอร์ทและตามโครงการ police eye และท่าอากาศยานเชียงใหม่พบว่าผู้นายพัฒนพงษ์กำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้เร่งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำกำลังเข้าจับกุมภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เวลาประมาณ 08.00น. วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายพัฒนพงษ์ สารภาพว่าเป็นผู้ขนยาเสพติดจริงโดยอ้างว่าได้ร่วมกับชายชาวเขาไม่ทราบชื่อทำการซุกซ่อนเฮโรอีนไว้ในรถที่บริเวณตึกแถวในพื้นที่ตำบลริมใต้อำเภอแม่ริมโดยตนจะได้รับค่าจ้างขนยาเสพติดจำนวน 250,000 บาทหลังจากสามารถขนยาเสพติดเสร็จแล้วโดยยอมรับว่าได้มีการขนยาเสพติดในลักษณะดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 แล้วอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมเตรียมขยายผลจับกุมตัวเครือข่ายยาเสพติดและผู้ว่าจ้างในการขนยาเสพติดต่อไป