พ.อ.นพสิทย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากสายข่าวในเชิงลับรายงานว่า มีกลุ่มผู้ที่มีอิทธิพลในพื้นที่เขตบางนา ซึ่งจัดตั้งวินรถจักรยานยนต์เถื่อน โดยมีการเรียกรับเงินค่าสมาชิกรายเดือน พร้อมกันนี้ได้รับการยืนยันจากสายลับอีกว่าจะมีการนัดแนะประชุมวินรถจักรยานยนต์ในช่วงบ่ายของวันนี้(6 มี.ค.) จึงได้นำกำลังนอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตุการณ์และเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว ก่อนทำการปิดล้อมจับกุมวินรถจักรยานยนต์รับจ้างทั้งที่สวมเสื้อวินเถื่อนและถูกกฎหมายทั้งหมด ไปตรวจสอบข้อมูลประจำตัวที่สำนักงานเขตบางนา
ด้าน พ.อ.บุรินทร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ต่อต้านการจัดระเบียบของ คสช. ก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกเข้าไปปรับความเข้าใจว่า การกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายผิดกฎหมายและได้มีคำสั่งให้หยุดการกระทำ แต่ภายหลังมาอีก 1-2 วัน ก็ยังพบการกระทำแบบเดิมอีก จึงนำกำลังเข้าจับกุมวินดังกล่าวที่มีสมาชิกกว่า 130 คน โดยเป็นวินเถื่อนเกินกว่าครึ่ง อีกทั้งยังมีวินอื่นๆที่ผู้ต้องหาดังกล่าวได้เข้าไปจัดการดูแล เรียกเก็บเงินอีก 5-6 วิน ซึ่งจะตามไปดำเนินการภายหลัง นอกจากนี้ยังมีการร้องจากวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบางรายภายในวินว่า ผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์การขู่เรียกเก็บเงินจากวินที่ไม่ยอมด้วย
สอบสวนนายประมุก รับว่า เสื้อวินพร้อมของอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยตนมีอาชีพรับสกรีนเสื้อส่งตามร้านทั่วไป ในส่วนของเสื้อวินนั้นได้ทำประมาณ 100 ตัว ซึ่งจะมีสมาชิกมาอยู่ในวินประมาณ 130 กว่าคัน ซึ่งจะมีการประชุมและเรียกเก็บค่าเสื้อวินเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ 3,000-4,000 บาท ต่อคนต่อคัน ซึ่งมีทั้งวินที่ถูกกฎหมายที่มาสั่งทำเสื้อตัวใหม่จากตัวเดิมที่ชำรุด ก่อนจะเข้ามาอยู่ในวิน รวมถึงวินที่ผิดกฎหมายป้ายดำ ไม่มีป้ายชื่อประจำตัวผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง
เบื้องเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ก่อนจะทำการสอบสวนผู้ที่ขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่สามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด เพื่อแจ้งข้อหากกรรโชกทรัพย์ ก่อนส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป